ใช้รถยนต์ไฟฟ้า มีค่าบำรุงรักษารถ EV อะไรบ้างที่ต้องจ่าย?

ใช้รถยนต์ไฟฟ้า มีค่าบำรุงรักษารถ EV อะไรบ้างที่ต้องจ่าย?

04 July 2025

การใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถยนต์ EV ถึงแม้จะไม่มีรายการเช็กระยะบางอย่างเหมือนกับรถน้ำมัน แต่การเมนเทนและการบำรุงรักษา ก็ยังเป็นหนึ่งใน Check List ที่คนใช้รถต้องทำ แน่นอนว่า ค่าบำรุงรักษารถ EV ก็จะมีความแตกต่างจากรถยนต์น้ำมันพอสมควร เพราะฉะนั้น เราจะพาคุณมาดูกันว่า การบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้ามีอะไรบ้างที่สำคัญ แล้วต้องจ่ายค่าเซอร์วิสเท่าไหร่บ้างของแต่ละแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น BYD, Tesla, GWM และแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ ที่มีจำหน่ายในไทย

การบำรุงรักษารถ EV มีอะไรบ้าง

การบำรุงรักษารถ EV มีอะไรบ้างที่ต้องเช็ก?

ก่อนที่จะไปดูราคาค่าบำรุงรักษารถ EV ก่อนอื่นเราต้องมาดูกันก่อนว่า โดยปกติแล้วรถยนต์ไฟฟ้ามีรายการอะไรบ้างที่ต้องเช็กในการนำรถเข้าไปเช็กระยะ เพื่อตรวจสอบระบบและการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถ โดยปกติแล้วการเช็กระยะของรถยนต์ EV จะมีตารางระบุอย่างชัดเจน โดยการตรวจเช็กระยะนั้น ประกอบไปด้วย

  • ระบบขับเคลื่อนของรถยนต์ไฟฟ้า
  • ระบบระบายความร้อนและแบตเตอรี่รถ EV
  • ระบบกรองอากาศภายในรถ
  • ระบบเบรก และยางรถยนต์ไฟฟ้า

โดยทั้ง 4 ระบบนี้ เป็นระบบหลักของการเช็กระยะรถยนต์ EV ที่จะต้องตรวจเช็กทุกครั้งที่นำรถเข้าศูนย์บริการ ซึ่งหากระบบใดระบบหนึ่งมีปัญหา ก็จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของตัวรถเช่นกัน อาทิ หากระบบระบายความร้อนทำงานได้ไม่ดี ก็จะส่งผลต่อตัวแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าตามไปด้วย

การเช็กระยะ และค่าบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า ปี 2025

สำหรับอัตราค่าบริการของการเช็กระยะ หรือการบำรุงรักษารถยนต์ EV จะขึ้นอยู่กับระยะทางที่ต้องนำรถเข้าไปเช็กระยะ โดยทางแบรนด์รถยนต์ส่วนมากจะแบ่งการเข้ารับบริการเช็กระยะรถยนต์ไฟฟ้าออกเป็น 2 รูปแบบ คือ การบำรุงรักษาเชิงป้องกันครั้งแรก และการบำรุงรักษาเชิงป้องกันถัดไปทุก ๆ 12 เดือน โดยทาง Plughaus จะมาสรุปให้ดูกันว่า แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าแต่ละแบรนด์ มีค่าเช็กระยะเท่าไหร่บ้าง

ค่าเช็กระยะ และตารางบำรุงรักษารถ BYD

1. ค่าบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า BYD

แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า BYD จะมีการตรวจเช็กระยะตามตารางบำรุงรักษา โดยการเช็กระยะในครั้งแรกคือรอบ 3 เดือน หรือระยะ 5,000 กม. ซึ่งการเช็กระยะครั้งแรกจะเป็นการตรวจเช็กระบบของรถโดยภาพรวม ว่าสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่ มีระบบไหนที่ทำงานผิดปกติ หรือมีปัญหาไหม หากมีก็จะได้แก้ไขทันที โดยการตรวจเช็กระยะรถยนต์ไฟฟ้า BYD สามารถแบ่งได้ตามระยะ ดังนี้

  • ระยะ 3 เดือน หรือ 5,000 กม.
  • 12 เดือน (1 ปี) หรือ 20,000 กม.
  • 24 เดือน (2 ปี) หรือ 40,000 กม.
  • 36 เดือน (3 ปี) หรือ 60,000 กม.
  • 48 เดือน (4 ปี) หรือ 80,000 กม.
  • 60 เดือน (5 ปี) หรือ 100,000 กม.
  • 72 เดือน (6 ปี) หรือ 120,000 กม.
  • 84 เดือน (7 ปี) หรือ 140,000 กม.
  • 96 เดือน (8 ปี) หรือ 160,000 กม.

โดยค่าบำรุงรักษาของทาง BYD ผู้ใช้รถจะไม่ได้ชำระค่าแรงและค่าอะไหล่ในการบำรุงรักษา (เฉพาะในรายการที่กำหนด) โดยจะไม่รวมกับอะไหล่สิ้นเปลือง อะไหล่ที่ใช้งานหนัก หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกิดจากการใช้รถ หรือการเปลี่ยนอะไหล่ที่ไม่ตรงตามระยะการบริการ โดยเฉลี่ยแล้วค่าบำรุงรักษาจะอยู่ที่ 3,000 – 10,000 บาท/ปี

ค่าบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า GWM

2. ค่าบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า GWM

ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง GWM ก็เป็นค่ายที่มีบริการ GWM CARE Service Inclusive (GCSI) ด้วยแพ็กเกจฟรีค่าแรงสำหรับการบำรุงรักษาตามระยะทางสูงสุด 10 ครั้ง ตลอด 5 ปี ระยะทางไม่เกิน 75,000 กม. นอกจากนี้ ยังมีการรับประกันแบตเตอรี่รถ EV ให้ตลอดระยะเวลา 8 ปี หรือ 180,000 กม. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ใช้รถ ว่าจะไม่ได้แบกรับภาระค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป โดยเฉพาะกรณีที่เกิดปัญหาจากตัวรถ ซึ่งการเช็กระยะของรถยนต์ไฟฟ้า GWM จะเริ่มที่ระยะ 12 เดือน หรือ 15,000 กม. ดังนี้

  • ระยะ 12 เดือน หรือ 15,000 กม.
  • ระยะ 24 เดือน หรือ 30,000 กม.
  • ระยะ 36 เดือน หรือ 45,000 กม.
  • ระยะ 48 เดือน หรือ 60,000 กม.
  • ระยะ 60 เดือน หรือ 75,000 กม.
  • ระยะ 72 เดือน หรือ 90,000 กม.
  • ระยะ 84 เดือน หรือ 105,000 กม.
  • ระยะ 96 เดือน หรือ 120,000 กม.
  • ระยะ 108 เดือน หรือ 135,000 กม.
  • ระยะ 120 เดือน หรือ 150,000 กม.

สำหรับอัตราค่าบริการรถยนต์ไฟฟ้า GWM ยกตัวอย่างในรุ่น ORA Good Cat / GT จะมีค่าบำรุงรักษาตามระยะทางที่กำหนดเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 1,000 – 2,000 บาท แต่จะมีเพียงในระยะ 60,000 กม. และ 120,000 กม. จะมีราคาค่าบำรุงรักษาอยู่ที่ประมาณ 5,560 บาท ซึ่งสาเหตุที่มีราคาสูงกว่าระยะอื่น ๆ เนื่องจากการชำระค่าน้ำยาหม้อน้ำ น้ำมันเกียร์ และแหวนรองเกียร์ที่เพิ่มเข้ามา นอกเหนือจากค่าแรงและการเปลี่ยนไส้กรองแอร์

ค่าบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า Tesla

3. ค่าบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า Tesla

การบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้าเทสล่า ไม่ว่าจะเป็นโมเดลไหน ๆ ก็ตาม จะมีระยะการตรวจเช็กที่เหมือน ๆ กันคือ ในทุก 4 ปี จะต้องเปลี่ยนน้ำมันเบรกเสมอ และในทุก ๆ ปี จะต้องมีการทำความสะอาดและหล่อลื่นก้ามปูเบรก (Brake Caliper) ตามมาตรฐานของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla และที่ขาดไม่ได้คือ ในทุก ๆ 10,000 กม. จะต้องสลับยางรถ EV ทุกครั้ง หรืออาจมีการเปลี่ยนแปลง กรณีที่พบว่าความลึกของดอกยางแตกต่างกันมากกว่า 1.5 มม.

นอกจากนี้ การบำรุงรักษารถยนต์ของทางเทสล่า ตามการเข้าเช็กระยะ ยังรวมไปถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันปัจจุบัน ในกรณีที่ผู้ใช้รถยังไม่ได้อัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด ซึ่งโดยปกติแล้วตัวรถจะสามารถอัปเดตได้โดยอัตโนมัติ ด้วยการส่งข้อมูลผ่านทางเดียวเทียม เพียงแค่เชื่อมต่อ Wi – Fi และใช้แอปมือถือ Tesla เท่านั้น

หมายเหตุ: การเช็กระยะและบำรุงรักษาของรถยนต์ Tesla ยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขแบบตายตัวแต่อย่างใด แต่จากการเปิดเผยข้อมูลจากผู้ใช้จริง พบว่าค่าซ่อมแซมเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 15,000 บาท (หรืออาจน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับโมเดลและแพ็กเกจการเมนเทนรถยนต์ EV)

สรุป

จากข้อมูลอัตราค่าบริการสำหรับการบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า EV ทั้งจากของ GWM, BYD และ Tesla เอง สามารถอนุมานได้ในเบื้องต้นว่า หากเป็นรถยนต์ไฟฟ้า Tesla จะมีค่าบำรุงรักษาสูงกว่าค่ายรถยนต์สัญชาติจีน ในขณะที่ทาง GWM และ BYD มีค่าบำรุงรักษาเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 1,000 – 3,000 บาท สำหรับการเช็กระยะทั่ว ๆ ไป แต่จะมีเพียงบางระยะที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาราว ๆ 2 – 3 เท่าจากเดิม

ทั้งนี้ ก็เป็นเพราะการเปลี่ยนถ่ายของเหลว และอุปกรณ์บางอย่างของตัวรถตามอายุการใช้งาน เช่นเดียวกับทางรถยนต์ไฟฟ้า NETA V และ V – II ที่มีค่าบำรุงรักษาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000 – 2,000 บาท ในรอบเช็กระยะปกติ แต่หากเป็นรอบระยะทาง 40,000 กม. และ 80,000 กม. จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 3,800 บาท ซึ่งแบรนด์อื่น ๆ ก็น่าจะมีอัตราค่าบริการและค่าเช็กระยะที่ใกล้เคียงกัน อาทิ GAC, Wuling หรือแม้แต่ Changan

กลับสู่หน้าบทความ

Article Related