จะสิ้นปี 2024 แล้ว ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ก็ยังคงคึกคักและน่าติดตามกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเปิดตัวใหม่ในช่วงปลายปี 2024 และทำตลาดในช่วงปี 2025 นี้ ซึ่งบางรุ่นก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว ในขณะที่บางแบรนด์ก็เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ในไทย พร้อมทำตลาดอย่างจริงจัง เพราะฉะนั้น ชาวอีวีก็ไม่ควรพลาด มาดูกันว่าในช่วงนี้ Timeline การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในไทย มีรุ่นไหนบ้างที่น่าติดตาม มีครบทั้งแบรนด์ยักษ์ใหญ่และแบรนด์น้องใหม่ที่จะมาเข้าร่วมในศึกตลาดรถ EV แน่นอน
Update! รถยนต์ไฟฟ้า เปิดตัวใหม่ล่าสุดปี 2024 ในไทย
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม BEV, HEV และ PHEV ที่กำลังจะเปิดตัวและทำตลาดในไทย นับตั้งแต่ปลายปี 2024 ไปจนถึงปี 2025 ในตอนนี้ก็มีหลายรุ่นมาก ๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งบางรุ่นก็มีแววว่าจะเปิดตัวในงาน Motor Expo 2024 ที่กำลังจะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 – 10 ธันวาคม 2567 นี้เช่นกัน เพราะฉะนั้น ทาง PlugHaus Thailand จะพาคุณมา Check List ดูกันว่า ตอนนี้มีรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นไหนบ้างที่น่าติดตาม และกำลังจะมาบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย บอกเลยว่าแต่ละรุ่นน่าใช้และสเปกจัดเต็มไม่แพ้กัน
1. BYD Seal 2025
รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่งเปิดตัวไปแบบสด ๆ ร้อน ๆ และสดใหม่ก็ต้องยกให้กับ รถยนต์ไฟฟ้า 2024 อย่าง BYD Seal หรือ เจ้าแมวน้ำจากค่าย BYD ที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเมืองจีนไปแล้วในปีนี้ พร้อมการอัปเกรดครั้งใหญ่ ครบทั้งภายในและภายนอก และที่สำคัญคือ มีเทคโนโลยีล้ำสมัยที่น่าตื่นตาตื่นใจหลายอย่าง โดยเฉพาะแชสซีใหม่ที่มาพร้อมกับระบบ Disus – C ที่เพิ่มความสามารถได้หลายอย่าง เช่น ความเสถียร ความสะดวกสบาย และระบบกันสะเทือน
จุดเด่นของ BYD Seal 2025
- ขนาดตัวถัง (ยาว x กว้าง x สูง) 4,800 x 1,875 x 1,460 มม.
- e-Platform 3.0 EVO อัปเกรดระบบไฟฟ้าจาก 400 เป็น 800 โวลต์ ชาร์จแบตได้ตั้งแต่ 10% – 80% โดยใช้เวลาเพียงแค่ 25 นาที
- มีเทคโนโลยี LiDAR การตรวจจับสิ่งแวดล้อมรอบตัว สิ่งกีดขวาง วัตถุ ฯลฯ ที่แม่นยำมากขึ้น
- เป็นที่สุดของขุมพลัง EV โดยรุ่นท็อปมีกำลัง 390 กิโลวัตต์ 523 แรงม้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD)
- เปลี่ยนโลโก้ใหม่ จากคำว่า Build Your Dreams เหลือแค่ BYD เท่านั้น
- มีแบตเตอรี่ 2 ขนาด คือ ขนาด 61.44 kWh วิ่งได้สูงสุด 510 กม. และขนาด 80.64 kWh วิ่งได้สูงสุด 650 กม. ตามมาตรฐาน CLTC
รุ่นย่อยที่วางจำหน่าย
- 510 Standard Edition
- 650 Long Range Edition
- 650 Intelligent Driving Edition
- 600 4WD Intelligent Driving Edition
2. JAECOO 6
ถือว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับสายออฟโรดโดยเฉพาะ สำหรับเจ้า JAECOO 6 ที่มีการอัปเกรดขุมพลังให้แกร่งขึ้น โดยเฉพาะระบบการทำงานของ i-WD ที่กระจายแรงไปยัง 4 ล้อ ในโหมดการขับขี่ต่าง ๆ รวมถึงระบบ Ground Clearance ที่ช่วยทำให้ขับลุยน้ำได้อย่างปลอดภัย เรียกว่าเป็นรถอเนกประสงค์ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ทั้งแบบ On-Road และ Off-Road โดยเฉพาะ
จุดเด่นของ JAECOO 6
- เป็นตัวถังระบบ B-SUV ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% มีทั้งรุ่น 2WD และ 4WD
- มิติตัวรถ (ยาว x กว้าง x สูง) 4,406 x 1,910 x 1,715 มม.
- ใช้ไฟหน้า LED ชนิด Matrix LED ปรับสูง-ต่ำ แบบอัตโนมัติ และไฟ DRL รูปแบบตัว i
- โดดเด่นเรื่องระยะมุมเข้าและมุมจากตัวรถ ทำให้ขับขี่บนทางลาดชัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีกล่องเก็บสัมภาระด้านหลัง เพิ่มความอเนกประสงค์ได้ดี
- มีฟังก์ชันนวดเพื่อผ่อนคลายสำหรับผู้โดยสารคู่หน้า
- ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน LFP จาก CATL ความจุ 65.7 kWh ขับไกล 426 กม. และความจุ 69.8 kWh ขับได้ไกล 418 กม. ตามมาตรฐาน NEDC
- มีการขับขี่สูงสุด 9 โหมด โดยเฉพาะในโหมด All road ที่ให้รถจัดการตัวเองได้ทั้งหมด
รุ่นย่อยที่วางจำหน่าย
- Long Range 2WD ราคา 1,099,000 บาท
- Long Range 4WD ราคา 1,249,000 บาท
3. GAC AION V II
สำหรับ GAC AION V II เป็นอีกหนึ่งรถยนต์ไฟฟ้าจากแดนมังกร ที่กำลังจะมาทำตลาดในไทยในปลายปีนี้ (คาดว่าจะเปิดตัวพร้อมเผยโฉมอย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2024 ปลายปีนี้) โดยเป็นรถ SUV ที่มีสมรรถนะให้เลือกใช้ 2 ขุมพลัง คือรุ่นที่ให้กำลัง 201 แรงม้า และ 221 แรงม้า ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน 2567 ที่งาน Beijing Auto Show 2024 ที่ผ่านมา โดยมีรุ่นย่อยให้เลือกถึง 7 รุ่น โดยไฮไลต์หลัก ๆ ของตัวรถก็คือ การพัฒนาขึ้นมาใหม่บนแพลตฟอร์ม AEP Pure Electric Digital Platform ของทาง GAC เอง
จุดเด่นของ GAC AION V II
- มิติตัวรถ (ยาว x กว้าง x สูง) 4,605 x 1,854 x 1,660 มม. และระยะฐานล้อ 2,775 มม.
- มีการออกแบบใหม่ เรียกว่า Blade Shadow Potential Energy
- ออกแบบโลโก้ใหม่ของ AION ด้วยรูปแบบตัวอักษร
- ออกแบบคอนโซลหน้าฝั่งผู้โดยสาร ให้มีความคล้ายกับเกล็ดมังกร
- มีการติดตั้งตู้แช่เย็นขนาด 6.6 ลิตร บริเวณคอนโซลกลาง ทำความร้อน ความเย็น และแช่แข็งได้
- ระบบเครื่องเสียงมีลำโพง 9 ตำแหน่ง และซับวูฟเฟอร์ขนาด 8 นิ้ว
- มีระบบผู้ช่วยส่วนตัวที่ทำงานบนระบบ AI รวมถึง iFlytek หรือเครื่องแปลภาษาอัจฉริยะ
- มีมอเตอร์ขนาด 150 kW และ 165 kW
- มีซิลิกอนคาร์ไบด์ ที่ช่วยให้ชาร์จได้ไวขึ้น 60% ชาร์จ 15 นาที วิ่งได้ 370 กม.
รุ่นย่อยที่วางจำหน่าย
- ที่เปิดตัวในจีนมีทั้งหมด 7 รุ่นย่อย ส่วนรุ่นที่จำหน่ายในไทยต้องรอเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
4. Wuling Binguo
หากใครเป็นสาวกรถไซซ์มินิ ก็ต้องไม่พลาดกับ Wuling Binguo 2024 รถยนต์ไฟฟ้า ที่เปิดตัวมาเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมาอย่างเป็นทางการ เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดในกลุ่ม B-Segment ที่เปิดตัวมาพร้อมกับดีไซน์แบบ Timeless ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Be The Icon” ที่ขึ้นชื่อเรื่องความคลาสสิกและเรียบง่าย ตอบโจทย์การใช้งานภายในเมืองโดยเฉพาะ และที่สำคัญคือ มีการรับประกันมอเตอร์ แบตเตอรี่ และคอนโทรลเลอร์ตลอดอายุการใช้งาน หรือ Passive Lifetime Warranty
จุดเด่นของ Wuling Binguo
- มิติตัวรถ (ยาว x กว้าง x สูง) 3,950 x 1,780 x 1,580 มม.
- แถมฟรี Wallbox Home Charger 7 kW พร้อมบริการติดตั้ง
- รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
- มีกล้องบันทึกข้อมูลการขับขี่ DVR 1080p Full HD
- ใช้แบตเตอรี่ Lithium – ion (LFP) ขนาด 31.9 kWh
- สามารถวิ่งได้ไกล 333 กม. ต่อการชาร์จ (มาตรฐาน NEDC)
- รองรับหัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo
- มีรูปแบบการขับขี่ 4 โหมด คือ ECO+ / ECO / Normal / Sport
- มีระบบสตาร์ทอัตโนมัติ พร้อมระบบกุญแจ Smart Keyless Entry
- ล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อวิ่งด้วยความเร็ว หรือ Drive Away Locking
รุ่นย่อยที่วางจำหน่าย
- Wuling Binguo SR AC ราคา 419,000 บาท
- Wuling Binguo SRD DC ราคา 449,000 บาท
5. Tesla Model Y Juniper 2025
ในช่วงต้นปี 2025 ที่จะถึงนี้ รถยนต์ไฟฟ้าที่เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมวางจำหน่ายก็คือ Tesla Model Y Juniper 2025 ที่มาพร้อมกับการปรับดีไซน์ใหม่ทั้งหมด มีความโดดเด่นที่เป็นจุดขายอันดับแรก ๆ คือ การออกแบบไฟหน้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก XPENG ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ซึ่งเบื้องต้น Tesla Model Y Juniper จะเริ่มผลิตที่โรงงาน Giga Shanghai ในปลายปี 2024 นี้ พร้อมส่งมอบรถในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดออกมาแบบ 100% มีเพียงข้อมูลแบบคร่าว ๆ ของตัวรถเท่านั้น เรียกว่า สาวกคนรักเทสล่าสต้องติดตามกันแบบวันต่อวัน สำหรับข่าวสารของรถรุ่นนี้กันเลยทีเดียว
จุดเด่นของ Tesla Model Y Juniper 2025
- มีการปรับปรุงดีไซน์ใหม่ ด้วยการนำแถบไฟ LED แบบใหม่มาใช้ คล้ายการออกแบบของ XPENG
- ยังคงคอนเซ็ปต์การออกแบบที่โดดเด่น เทคโนโลยีล้ำสมัย และออปชั่นที่ครบครันเช่นเดิม
- อาจมีสีใหม่ คือ Ultra Red และ Stealth Gray เพิ่มมาจากสีเดิมที่มีอยู่ในตอนนี้
- คาดว่ามีการออกแบบแผงหน้าปัดใหม่ พร้อมระบบ Infotainment แบบจอสัมผัสหมุนได้
- ภายในมีความคล้ายกับ Tesla Model 3 แต่แผงหน้าปัดมีการปรับปรุงให้เข้ากับห้องโดยสาร
- คาดว่ามีการพัฒนาแบตเตอรี่ชุดใหม่ ที่อาจวิ่งได้ไกลถึง 400 ไมล์ มีความจุแบต 62.5 kWh
รุ่นย่อยที่วางจำหน่าย
- มีการเปิดเผยว่าจะมีการอัปเกรดรถรุ่นใหม่ พร้อมพัฒนารถที่มีราคาจับต้องได้
ติดตามทุกข่าวสารสดใหม่ ในแวดวงรถยนต์ EV ที่ PlugHaus
จะเห็นได้เลยว่า ในบรรดารถยนต์ EV หรือ รถยนต์ไฟฟ้า ที่จะเตรียมมาทำตลาดในไทย นับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2024 ไปจนถึงต้นปี 2025 นี้ ก็มีหลายรุ่นที่น่าสนใจ และมีหลายรุ่นมาก ๆ ที่น่าใช้งาน ทั้งรถที่ออกแบบมาเพื่อสายออฟโรด หรือรถอีวีที่ออกแบบมาเพื่อคนใช้รถในเมืองโดยเฉพาะ นอกจากนี้ แบรนด์ชั้นนำอย่าง Tesla เอง ก็พร้อมที่จะตีตลาดพร้อมพัฒนารถรุ่นใหม่ ๆ ให้มีราคาที่เอื้อมถึงได้
บอกเลยว่า กระแสรถยนต์ EV ในตอนนี้ ก็ยังคงคึกคักและน่าติดตามกันมาก ๆ และหากคุณไม่อยากพลาดข่าวสารวงการรถยนต์ไฟฟ้า หรือเทรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ก็อย่าลืมมาติดตามกับทาง PlugHaus Thailand ตัวจริงเรื่อง Home Charger บอกเลยว่า นอกจากเราจะมีข่าวสารวงการรถยนต์ EV อัปเดตกันแบบเรียลไทม์แล้ว เรายังมีสาระความรู้ที่น่าสนใจให้คุณได้ติดตามอีกเพียบ!