การใช้งาน EV Charger หรือ เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ตาม สิ่งที่คนใช้รถต้องไม่มองข้ามก็คือ การดูแลและบำรุงรักษาเครื่องชาร์จรถ EV ให้ใช้งานได้ยาวนาน เพราะนอกจากจะช่วยให้มีอายุการใช้งานได้นานแล้ว ยังช่วยเรื่องความปลอดภัยได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะหากเราตรวจเช็กความเรียบร้อยของเครื่องชาร์จอย่างสม่ำเสมอ ก็จะทำให้เห็นว่า เครื่องชาร์จรถไฟฟ้ามีความพร้อมในการใช้งานหรือไม่ มีส่วนที่ชำรุดเสียหาย หรือว่าเครื่องไม่พร้อมใช้งานเนื่องจากปัญหาต่าง ๆ ไหม เพราะฉะนั้น ทาง PlugHaus Thailand จะพาคุณมาดูกันว่า การดูแลรักษาเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน หรือ Home Charger นั้น มีอะไรบ้าง
How-To การดูแลรักษาเครื่องชาร์จรถ EV แบบง่าย ๆ
การดูแลและบำรุงรักษาเครื่องชาร์จรถ EV Charger นั้น นอกจากการดูแลความเรียบร้อยของตัวเครื่องและสายไฟแล้ว ยังมีจุดสังเกตอีกหลายจุดที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มีการติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน เพราะฉะนั้น มาดูกันว่าการวิธีการดูแลรักษาเครื่องชาร์จ EV ให้ใช้งานได้ยาวนานและปลอดภัยนั้น มีอะไรบ้างที่คนใช้รถอีวีสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
1. ความเรียบร้อยของเครื่องชาร์จรถ EV
การดูแลรักษาเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ง่ายที่สุดในทุก ๆ วัน ก็คือการตรวจเช็กความเรียบร้อยของเครื่องชาร์จ สายไฟ หัวชาร์จรถ EV และขั้วต่อ เพื่อดูว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ พร้อมใช้งานแค่ไหน มีความเสียหายทางกายภาพเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งการตรวจเช็กเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเป็นประจำ จะทำให้เราเห็นความสึกหรอได้ไว หากมีปัญหาหรือว่าความผิดปกติเกิดขึ้นกับตัวอุปกรณ์ ก็จะสามารถแก้ไขได้ไวกว่าและปัญหาไม่ลุกลาม
2. การทำความสะอาด Home Charger
การรักษาความสะอาดของเครื่องชาร์จก็ถือว่าสำคัญและไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เพราะนอกจากจะทำให้เครื่องชาร์จไม่เก่าไวแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานให้ดียิ่งขึ้นได้ด้วย เช่น การเช็ดฝุ่นหรือว่าทำความสะอาดบริเวณพื้นผิวที่ชาร์จเป็นประจำ ก็จะช่วยทำให้การกระจายความร้อนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งวิธีการทำความสะอวดเครื่องชาร์จนั้น ตามคู่มือของ EV Charger จะมีการระบุขั้นตอนเอาไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถทำความสะอาดเองได้ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วสามารถทำความสะอาดเองได้ง่าย ๆ ดังนี้
- ปิดเครื่องชาร์จก่อนเสมอ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดจากกระแสไฟฟ้า
- ถอดปลั๊กเครื่องชาร์จออกจากแหล่งจ่ายไฟ เพื่อไม่ให้มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านในขณะทำความสะอาด
- กำจัดเศษฝุ่นและคราบต่าง ๆ เช่น คราบน้ำ ด้วยการใช้แปรงขนนุ่มหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ เพื่อลดการขีดข่วนบนพื้นผิว
- ใช้นำยาทำความสะอาดเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดยจะต้องเป็นน้ำยาที่อ่อนโยนและไม่ทำร้ายพื้นผิว
- การเช็ดทำความสะอาดนอกจากบริเวณเครื่องชาร์จแล้ว อย่าลืมเช็ดสายไฟและขั้วต่อทุกครั้ง
- การล้างเครื่องชาร์จด้วยน้ำ ควรล้างด้วยการใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ ห้ามฉีดน้ำจากสายยางหรือเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงอย่างเด็ดขาด
- เช็ดเครื่องชาร์จและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้แห้ง และควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแห้งสนิทแล้วก่อนเสียบปลั๊กกลับเข้าไปใหม่เพื่อใช้งาน
3. การอัปเดตซอฟต์แวร์และระบบของเครื่องชาร์จ
การใช้งานเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าหลาย ๆ รุ่น ก็จะมาพร้อมกับซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้น ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็อาจจะต้องหมั่นอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นระยะ ซึ่งจุดนี้อาจจะต้องเช็กจากรุ่นเครื่องชาร์จที่ใช้ รวมถึงตัวระบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย โดยจะต้องสังเกตทั้งตัวระบบ และไฟแสดงสถานะเครื่องชาร์จไปพร้อม ๆ กัน หากพบปัญหาอาจจะลองรีเซ็ตดูก่อนสักครั้งหนึ่ง หากพบว่าปัญหาเครื่องชาร์จนั้นยังไม่หายไป แนะนำว่าให้ติดต่อผู้ใช้บริการที่ได้เข้ามาติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน เพื่อหาทางออกและแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
4. การตรวจสอบความปลอดภัยด้านไฟฟ้า
การหมั่นสังเกตความปลอดภัยและการเชื่อมต่อทางไฟฟ้า รวมถึงสายไฟที่ใช้เป็นระยะ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับคนใช้รถยนต์ EV เช่นกัน เพราะทุกครั้งที่จะใช้งานเครื่องชาร์จ จะต้องมั่นใจว่าอยู่ในสภาพดีและพร้อมในการใช้งาน เป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย ซึ่งการตรวจเช็กในส่วนนี้ก็ต้องสัมพันธ์กับการติดตั้งเครื่องชาร์จด้วยเช่นกัน เพราะการติดตั้งเครื่องชาร์จก็ต้องมีสายดินด้วย เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานเอง
5. การบำรุงรักษาเครื่องชาร์จอย่างสม่ำเสมอ
บางครั้งการดูแลรักษาให้ EV Charger ใช้งานได้อย่างยาวนานและมีประสิทธิภาพ ก็ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่มีความรู้มาตรวจเช็กให้เช่นกัน อาทิ อุปกรณ์ภายใน และหากพบความผิดปกติหรือเห็นว่าเครื่องชาร์จมีปัญหา แนะนำให้ติดต่อกับทีมงานที่มาติดตั้งให้ เพื่อตรวจสอบดูว่าปัญหาที่พบนั้นเกิดจากอะไร มีอุปกรณ์ชำรุดหรือเสียหายภายในหรือไม่
ดังนั้น เมื่อทำการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านไปแล้ว ก็อย่าลืมหมั่นตรวจเช็กความเรียบร้อยทุกครั้ง เพราะหากปัญหาเกิดขึ้นและยังอยู่ในระยะเวลาการรับประกันหลังการติดตั้ง ก็จะได้ให้ทีมงานเข้ามาตรวจเช็กและแก้ไขให้ได้ อย่างไรก็ตาม การบำรุงรักษาผู้ผลิตหรือว่าผู้ให้บริการโดยส่วนมาก จะมีการตรวจสอบอุปกรณ์เป็นระยะ ๆ อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น อย่าลืมใช้บริการและให้ช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบอุปกรณ์ตามกำหนด (อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง)
มั่นใจได้มากกว่า ด้วยการรับประกันงานติดตั้ง 2 ปี ที่ PlugHaus
สำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือว่ารถยนต์ EV ที่กำลังมองหาผู้ให้บริการด้านการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีมาตรฐาน และการรับประกันหลังงานติดตั้งที่ครบวงจร เพียงเลือกใช้บริการกับทาง PlugHaus Thailand วันนี้ ทางเรามีบริการการรับประกันให้นานถึง 2 ปี และยังมีประกันงานวินาศภัยอีก 30 ล้านบาท ไม่รวมสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในบางรุ่น ที่สำคัญ มีงบเริ่มต้นเพียงแค่ 13,900 บาท ก็สามารถติดตั้ง Home Charger ที่บ้านได้แล้ว!