การชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเครื่องชาร์จ EV Charger นั้น ในปัจจุบันก็มีการแยกประเภทของเครื่องชาร์จออกเป็นหลายแบบ ทั้งการแยกตามการติดตั้ง และการแยกตามประเภทของหัวชาร์จ แต่สิ่งที่ต้องเคยได้ยินกันบ่อย ๆ คือ Portable Charger หรือเครื่องชาร์จไฟรถ EV แบบพกพา และเครื่องชาร์จแบบ AC Charging เพราะฉะนั้น เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับเครื่องชาร์จไฟแบบพกพากันให้มากขึ้น ว่าสายชาร์จชนิดนี้ทำงานยังไง มีกี่ขนาด แล้วเมื่อเปรียบเทียบกับการชาร์จแบบ AC จะแตกต่างกันมากแค่ไหน เลือกใช้แบบไหนดีกว่ากัน?

เครื่องชาร์จ Portable Charger คืออะไร?
Portable Charger คือ เครื่องชาร์จไฟแบบพกพา หรือจะเรียกสายชาร์จเคลื่อนที่ก็ได้เช่นกัน ซึ่งเป็นเครื่องชาร์จที่สามารถพกพาเอาไว้ในรถยนต์ EV ได้ เพื่อใช้นอกสถานที่หรือการเดินทาง ไม่ได้ติดตั้งกับผนังบ้านหรือพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเป็นกิจจะลักษณะ โดยรูปแบบการชาร์จจะเป็นแบบ Plug and Play สามารถเสียบชาร์จได้ง่าย ๆ ไม่ต้องมีการติดตั้งที่ซับซ้อน ก็สามารถชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้าได้ทุกที่ที่ต้องการ จึงทำให้เป็นเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่หลาย ๆ คนนิยมซื้อติดรถเอาไว้

ข้อดีของเครื่องชาร์จแบบ Portable Charger
- มีราคาที่ถูกกว่าเครื่องชาร์จแบบติดผนัง อาทิ Portable Charger 7kW 32A มีราคาเฉลี่ยเพียงแค่ 3,000 – 10,000 บาท
- มีความยืดหยุ่นในการใช้งานและมีความคล่องตัวสูง อยู่ที่ไหนก็ชาร์จไฟได้ เพียงแค่มีเต้ารับไฟเท่านั้น
- ไม่ต้องติดตั้งเครื่องชาร์จติดผนังเหมือน Wallbox หรือ Home Charger แบบทั่วไป
- ใช้งานได้ง่ายเพราะเป็นระบบการชาร์จแบบ Plug and Play
- สามารถชาร์จไฟในระหว่างเดินทางได้ ลดความกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดเวลาเดินทางไกล
ข้อจำกัดของเครื่องชาร์จ Portable Charger
- การชาร์จไฟจะใช้เวลานานมากกว่า Home Charger ประเภท AC ที่นิยมติดตั้งไว้ที่บ้าน
- หากความจุแบตสูงก็จะใช้เวลานานมากขึ้นในการชาร์จแต่ละครั้ง ส่งผลต่อกำลังไฟที่ใช้ภายในครัวเรือนด้วย
- โดยปกติแล้วเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบพกพา Portable Charger ถูกออกแบบมาให้ใช้งานเป็นครั้งคราว ไม่เหมาะในการใช้งานเป็นประจำทุก ๆ วัน เพราะประสิทธิภาพน้อยกว่า AC Charger อย่างชัดเจน
- สามารถสึกหรอได้ง่าย เพราะต้องถอดและเสียบเข้าเต้ารับทุกครั้งที่ต้องการชาร์จไฟ รวมถึงการสึกหรอจากการกระเทือนในระหว่างการขับขี่

เครื่องชาร์จ AC หรือ Home Charger
นอกเหนือจากเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV แบบพกพา Portable Charger แล้ว การชาร์จไฟอีกอย่างหนึ่งที่คนใช้รถยนต์ EV รู้จักกันดีก็คือ Home Charger หรือเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน ซึ่งเป็นเครื่องชาร์จประเภท AC Charging หรือ Normal Charge ที่ใช้ระบบการชาร์จไฟด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ พบเห็นได้ทั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านและตามสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Charging Station ที่ให้บริการตามสถานที่ต่าง ๆ นั่นเอง
โดยเครื่องชาร์จ AC นี้ จะมีความแตกต่างกันกับ Portable Charger อย่างชัดเจน เพราะเป็นเครื่องชาร์จที่ติดตั้งเข้ากับผนังบ้านโดยตรง (บางบ้านอาจเลือกติดตั้งไว้กับเสาบ้าน หรือเสาติดตั้งเครื่องชาร์จก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้) เรียกง่าย ๆ ก็คือ Home Charger เป็นเครื่องชาร์จที่ติดตั้งอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ไม่มีการเคลื่อนที่หรือพกพาออกไปใช้นอกบ้านเหมือน Portable EV Charger
ข้อดีของเครื่องชาร์จแบบ Home Charger
- สามารถชาร์จไฟได้ทุกเวลาที่ต้องการ ในพื้นที่ที่ติดตั้งเครื่องชาร์จเอาไว้
- ใช้งานง่าย มีหลายระบบให้เลือกใช้ เช่น Plug and Play เสียบแล้วชาร์จไฟได้เลย
- ในปัจจุบันมีเครื่องชาร์จรุ่นใหม่ ๆ ที่พัฒนาให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่ครอบคลุม เช่น การใช้ RFID
- บางรุ่นมีแอปพลิเคชันให้ใช้งาน ตั้งเวลาการชาร์จได้ และตรวจสอบการใช้พลังงานของรถ EV ได้
- ให้พลังงานที่มากกว่า Portable Charger เหมาะกับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความจุแบตสูง
- ใช้งานได้ยาวนานมากกว่า และเป็นเครื่องชาร์จที่เหมาะกับรถยนต์ EV มากที่สุด
- ชาร์จไฟได้อย่างสบายใจ เพราะการติดตั้ง Home Charger ไว้ที่บ้าน จะต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญหรือช่างไฟที่มีใบรับรอง ที่สามารถติดตั้งเครื่องชาร์จให้ถูกต้องตามมาตรฐานของ กฟผ. และ กฟน. ได้
- ในปัจจุบันเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านมีหลากหลายราคาให้เลือก โดยส่วนมากเป็นแพ็กเกจค่าเครื่องที่รวมกับค่าติดตั้งเอาไว้แล้ว เช่น Teison Smart Mini ที่มีราคาเพียง 17,900 บาทเท่านั้น
ข้อจำกัดของเครื่องชาร์จไฟ Home Charger
- การติดตั้งเครื่องชาร์จจะต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ หรือช่างไฟฟ้าที่มีใบอนุญาตหรือใบรับรองเท่านั้น
- เครื่องชาร์จประเภท Home Charger จะเป็นการติดตั้งกับผนังหรือเสา ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
- ต้องมีการประเมินระบบไฟฟ้าของบ้านควบคู่กับเครื่องชาร์จที่ต้องการใช้ เช่น ไฟฟ้าวงจรที่ 2 หรือแม้กระทั่งการติดตั้งเครื่องชาร์จควบคู่กับ Solar Cell
- หากเทียบกับ Portable Charger แล้ว เครื่องชาร์จ EV แบบติดผนัง จะมีราคาที่สูงกว่า
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีบ้านหรือที่พักอาศัยเป็นของตนเอง เพราะการติดตั้งเครื่องชาร์จ AC Charger ไว้ที่บ้าน เป็นการติดตั้งเพื่อใช้งานในระยะยาว

เลือก Portable Charger กับ AC Charging แบบไหนคุ้มกว่า?
จริง ๆ แล้วการเลือกเครื่องชาร์จทั้งแบบ Portable Charger และ AC ที่เป็นเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน ต่างก็มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลัก ซึ่งหากใครที่มีรถยนต์ไฟฟ้าและพักอาศัยอยู่ที่บ้าน มีพื้นที่สำหรับติดตั้งเครื่องชาร์จ จะเหมาะสำหรับการใช้ Home Charger เป็นหลักมากกว่า เพราะใช้เวลาชาร์จไม่นาน เสียบชาร์จทิ้งไว้ได้โดยไม่เป็นอันตราย ให้กำลังไฟมากกว่า ทั้งยังใช้งานได้ยาวนานกว่าเครื่องชาร์จแบบพกพา
และหากต้องการใช้ Portable Charger ร่วมด้วย ควรใช้เป็นเครื่องชาร์จไฟแบบพกพา เพื่อใช้งานนอกสถานที่เป็นหลัก โดยเฉพาะการเดินทางไปต่างจังหวัด แล้วกังวลว่าสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะจะไม่เพียงพอ เพราะเพียงแค่มีเต้ารับก็สามารถชาร์จไฟเข้ารถได้แล้ว ซึ่งเครื่องชาร์จประเภทนี้จะเหมาะสำหรับการใช้เป็นเครื่องชาร์จสำรองมากกว่าการใช้เป็นเครื่องชาร์จหลักที่ใช้เป็นประจำทุกวัน
ติดตั้ง EV Charger ที่มีมาตรฐานเลือก Plughaus
สำหรับผู้ที่ต้องการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ หรือช่างไฟฟ้าที่มีความชำนาญด้านการติดตั้ง EV Charger โดยเฉพาะ สามารถเลือกติดตั้ง Home Charger กับทาง Plughaus Thailand ได้เลย โดยเรามีเครื่องชาร์จให้บริการหลากหลายรุ่นให้เลือกสรร รองรับการชาร์จด้วยหัวชาร์จประเภท Type 2 ทำให้ใช้กับรถยนต์ EV ได้ทุกรุ่นที่จำหน่ายในไทย และที่สำคัญคือ ก่อนการติดตั้งเราจะมีการตรวจสอบพื้นที่สำหรับติดตั้งเครื่องชาร์จให้อย่างละเอียด พร้อมให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้การใช้งานเครื่องชาร์จรถ EV ปลอดภัยมากที่สุดตามมาตรฐานของ กฟผ. และ กฟน.