fbpx

รีวิว 3 เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ตอบโจทย์บ้านยุคใหม่ ถูกใจสาย Go Green

การเลือกเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Charger ไว้ใช้งานภายในบ้านหรือที่พักอาศัยนั้น นับว่ามีความสำคัญอย่างมาก สำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า เพราะนอกจากจะช่วยให้มีความสะดวกสบายมากขึ้นแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ในการไปชาร์จไฟตามสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้อีกด้วย และทาง PlugHaus Thailand ก็ไม่พลาด ที่จะมาแนะนำ Home Charger หรือเครื่องชาร์จรถ EV ดีดี ที่ใช้งานแล้วปลอดภัย คุ้มค่า ที่สำคัญ ราคาจับต้องได้ มีมาตรฐานที่ผ่านการรับรองแบบครบครันทุกรุ่นเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Wallbox รุ่น Pulsar Max

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Wallbox รุ่น Pulsar Max

1. เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Wallbox รุ่น Pulsar Max

หากใครที่กำลังมองหา เครื่องชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน ที่น่าใช้งานและมีดีไซน์สุดมินิมอล ก็ต้องยกให้กับ Wallbox Pulsar Max ที่รองรับการใช้งานทั้งรถยนต์ไฟฟ้า BEV และ Plug-in Hybrid มาพร้อมกับการควบคุมการใช้งานผ่านทางแอปฯ พร้อมทั้งเทคโนโลยีที่น่าสนใจมากมาย เพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการใช้งานเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ง่าย และตอบโจทย์กับบ้านยุคใหม่ เรียกว่า เป็นหนึ่งใน Home Charger ที่ขื้น Best Seller ที่ขายดีและได้รับความนิยมกว่า 100 ประเทศทั่วโลกกันเลยทีเดียว

รีวิว Wallbox Pulsar Max

  • เป็น EV Charger ที่โดดเด่นเรื่องดีไซน์ที่สวยงาม และมีขนาดกะทัดรัด
  • มีมาตรฐาน ปลอดภัย ผลิตจากประเทศสเปน
  • ตัวเครื่อง EV Charger มีขนาด 198 x 201 x 99 มิลลิเมตร
  • สามารถจ่ายไฟได้ตั้งแต่ 7.4 – 22 kW (รองรับทั้งไฟ 1 เฟส และ 3 เฟส)
  • รองรับการใช้งานและควบคุมการชาร์จไฟผ่านแอปฯ my Wallbox
  • ใช้หัวชาร์จแบบ Type 2
  • สายชาร์จมีความยาว 5 ถึง 7 เมตร
  • มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP55 / IK10
  • มี 2 สีให้เลือก คือ ขาว และดำ
  • มีเทคโนโลยี Power Boost และ Dynamic Power Sharing
  • มี Eco Smart สามารถใช้กับโซลาร์เซลล์ได้
  • หน้าจอระบบสัมผัส สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง Bluetooth, Wi-Fi (2.4GHz และ 5GHz)

ราคาจำหน่าย พร้อมติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน

  • รุ่นขนาด 7.4 kW ราคาพร้อมติดตั้ง เริ่มต้น 54,900 บาท
  • รุ่นขนาด 22 kW ราคาพร้อมติดตั้ง เริ่มต้น 68,900 บาท
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Wallbox รุ่น Pulsar Plus

2. เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Wallbox รุ่น Pulsar Plus

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Wallbox Pulsar Plus เป็นรุ่นที่มีจุดเด่นคือ สามารถรองรับการใช้งานได้ทั้งรถไฟฟ้าประเภท PHEV และ รถยนต์ไฟฟ้า EV ที่ใช้แบตเตอรี่แบบ 100% หรือก็คือ BEV โดยตัวเครื่องมีเทคโนโลยีที่ค่อนข้างหลากหลาย เหมาะกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ที่ก็มีการใส่เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาเช่นกัน และที่ขาดไม่ได้คือ Home Charger ในรุ่น Pulsar Plus มีประสิทธิภาพการชาร์จถึง 22 kW รองรับทั้งหัวชาร์จ Type 1 และ Type 2

รีวิว Wallbox Pulsar Plus

  • ตัวเครื่อง EV Charger มีขนาด 116 x 163 x 82 มิลลิเมตร
  • มี 2 สีให้เลือก คือ ขาว และดำ
  • มี 2 ขนาดให้เลือก คือ 7.4 kW และ 22 kW
  • กระแสไฟตั้งแต่ 6 A ถึง Rate Current
  • มีมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP54 / IK10
  • มีเซ็นเซอร์ตรวจจับกระแสไฟตกค้างหรือไฟรั่ว
  • รองรับการใช้งานผ่านทางแอปฯ myWallbox
  • เชื่อมต่อได้ทั้ง Wi-Fi และ Bluetooth
  • ตั้งเวลาในการชาร์จได้ง่าย ๆ ที่เครื่องชาร์จ
  • มีระบบการคำนวณค่าไฟภายในตัว
  • สามารถดูสถิติการชาร์จไฟได้
  • มีสถานะไฟ LED เพื่อแสดงสถานะเครื่องชาร์จ
  • ใช้รูปแบบการชาร์จไฟแบบ Mode 3 (การชาร์จไฟกระแสสลับ)

ราคาจำหน่าย พร้อมติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน

  • รุ่นขนาด 7.4 kW ราคาพร้อมติดตั้ง เริ่มต้น 49,000 บาท
  • รุ่นขนาด 22 kW ราคาพร้อมติดตั้ง เริ่มต้น 63,900 บาท
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EN+ Caro Series

3. เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EN+ Caro Series

อีกหนึ่งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าใช้งานมาก ๆ ก็คือ EN+ Caro Series ที่มาพร้อมกับดีไซน์สุดหรูหรา การันตีด้วยรางวัล Red Dot Design Award 2023 พร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ที่พร้อมให้ความสะดวกสบายต่อผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างดีที่สุด ที่สำคัญคือ มีราคาเริ่มต้นการติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านในราคาประหยัด ที่สำคัญคือ มีระบบการเชื่อมต่อที่ครบครัน ทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

รีวิว EN+ Caro Series

  • มีระบบควบคุมพลังงาน Dynamic Load Management ชาร์จไฟได้อย่างปลอดภัย ไม่เกินพิกัด
  • ตัวเครื่อง EV Charger มีขนาด 344 x 192 x 100 มิลลิเมตร
  • ใช้หัวชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Type 2
  • มีการเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi, Bluetooth, 4G และ Ethernet
  • มีมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP55 / IK8
  • มีกำลังไฟ 7 – 11 kW
  • รองรับการใช้ไฟสำหรับ 1 เฟส
  • ความยาวสาย 7 เมตร
  • มี 2 สีให้เลือก คือ สีขาว และสีดำ
  • รองรับการใช้งานร่วมกับโซลาร์เซลล์ ด้วย PV Charging
  • PV Charging

ราคาจำหน่าย พร้อมราคาติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน

  • ราคาเครื่อง 7kW พร้อมบริการติดตั้ง เพียง 29,900 บาท
ติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน เลือก PlugHaus

ติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน เลือก PlugHaus

สำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น PHEV หรือ BEV ที่กำลังมองหา “เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า” ที่มีมาตรฐาน พร้อมบริการติดตั้งให้ถึงหน้าบ้านจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญ เพียงเลือกติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน หรือ Home Charger กับทาง PlugHaus วันนี้ ก็จะได้รับสิทธิพิเศษที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น การตรวจสอบความพร้อมของพื้นที่ติดตั้งภายในบ้าน หรือการให้คำแนะนำในด้านระบบไฟฟ้าเพื่อให้เพียงพอต่อการติดตั้งเครื่องชาร์จรถ EV

นอกจากนี้ เรายังมีบริการและจัดจำหน่ายที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Wallbox Pulsar Max, Wallbox Pulsar Plus และ เครื่องชาร์จรถไฟฟ้า EN+ Caro Series ที่เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีราคาย่อมเยา แต่มีคุณภาพและมีเทคโนโลยีที่อัดแน่น ตอบโจทย์บ้านยุคใหม่ด้วยดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใคร เพราะฉะนั้น ลงทะเบียนและรับข้อมูลของ Home Charger วันนี้ได้เลยที่ PlugHaus Thailand

แชร์ทริก(ไม่)ลับ เคล็ดลับการบำรุงรักษา EV Charger ให้ใช้งานได้ยาวนาน ไม่พังง่าย

การใช้งาน EV Charger หรือ เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ตาม สิ่งที่คนใช้รถต้องไม่มองข้ามก็คือ การดูแลและบำรุงรักษาเครื่องชาร์จรถ EV ให้ใช้งานได้ยาวนาน เพราะนอกจากจะช่วยให้มีอายุการใช้งานได้นานแล้ว ยังช่วยเรื่องความปลอดภัยได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะหากเราตรวจเช็กความเรียบร้อยของเครื่องชาร์จอย่างสม่ำเสมอ ก็จะทำให้เห็นว่า เครื่องชาร์จรถไฟฟ้ามีความพร้อมในการใช้งานหรือไม่ มีส่วนที่ชำรุดเสียหาย หรือว่าเครื่องไม่พร้อมใช้งานเนื่องจากปัญหาต่าง ๆ ไหม เพราะฉะนั้น ทาง PlugHaus Thailand จะพาคุณมาดูกันว่า การดูแลรักษาเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน หรือ Home Charger นั้น มีอะไรบ้าง

วิธีการดูแลรักษาเครื่องชาร์จรถ EV Charger

How-To การดูแลรักษาเครื่องชาร์จรถ EV แบบง่าย ๆ

การดูแลและบำรุงรักษาเครื่องชาร์จรถ EV Charger นั้น นอกจากการดูแลความเรียบร้อยของตัวเครื่องและสายไฟแล้ว ยังมีจุดสังเกตอีกหลายจุดที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มีการติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน เพราะฉะนั้น มาดูกันว่าการวิธีการดูแลรักษาเครื่องชาร์จ EV ให้ใช้งานได้ยาวนานและปลอดภัยนั้น มีอะไรบ้างที่คนใช้รถอีวีสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

1. ความเรียบร้อยของเครื่องชาร์จรถ EV

การดูแลรักษาเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ง่ายที่สุดในทุก ๆ วัน ก็คือการตรวจเช็กความเรียบร้อยของเครื่องชาร์จ สายไฟ หัวชาร์จรถ EV และขั้วต่อ เพื่อดูว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ พร้อมใช้งานแค่ไหน มีความเสียหายทางกายภาพเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งการตรวจเช็กเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเป็นประจำ จะทำให้เราเห็นความสึกหรอได้ไว หากมีปัญหาหรือว่าความผิดปกติเกิดขึ้นกับตัวอุปกรณ์ ก็จะสามารถแก้ไขได้ไวกว่าและปัญหาไม่ลุกลาม

2. การทำความสะอาด Home Charger

การรักษาความสะอาดของเครื่องชาร์จก็ถือว่าสำคัญและไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เพราะนอกจากจะทำให้เครื่องชาร์จไม่เก่าไวแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานให้ดียิ่งขึ้นได้ด้วย เช่น การเช็ดฝุ่นหรือว่าทำความสะอาดบริเวณพื้นผิวที่ชาร์จเป็นประจำ ก็จะช่วยทำให้การกระจายความร้อนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งวิธีการทำความสะอวดเครื่องชาร์จนั้น ตามคู่มือของ EV Charger จะมีการระบุขั้นตอนเอาไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถทำความสะอาดเองได้ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วสามารถทำความสะอาดเองได้ง่าย ๆ ดังนี้

  • ปิดเครื่องชาร์จก่อนเสมอ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดจากกระแสไฟฟ้า
  • ถอดปลั๊กเครื่องชาร์จออกจากแหล่งจ่ายไฟ เพื่อไม่ให้มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านในขณะทำความสะอาด
  • กำจัดเศษฝุ่นและคราบต่าง ๆ เช่น คราบน้ำ ด้วยการใช้แปรงขนนุ่มหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ เพื่อลดการขีดข่วนบนพื้นผิว
  • ใช้นำยาทำความสะอาดเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดยจะต้องเป็นน้ำยาที่อ่อนโยนและไม่ทำร้ายพื้นผิว
  • การเช็ดทำความสะอาดนอกจากบริเวณเครื่องชาร์จแล้ว อย่าลืมเช็ดสายไฟและขั้วต่อทุกครั้ง
  • การล้างเครื่องชาร์จด้วยน้ำ ควรล้างด้วยการใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ ห้ามฉีดน้ำจากสายยางหรือเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงอย่างเด็ดขาด
  • เช็ดเครื่องชาร์จและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้แห้ง และควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแห้งสนิทแล้วก่อนเสียบปลั๊กกลับเข้าไปใหม่เพื่อใช้งาน

3. การอัปเดตซอฟต์แวร์และระบบของเครื่องชาร์จ

การใช้งานเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าหลาย ๆ รุ่น ก็จะมาพร้อมกับซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้น ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็อาจจะต้องหมั่นอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นระยะ ซึ่งจุดนี้อาจจะต้องเช็กจากรุ่นเครื่องชาร์จที่ใช้ รวมถึงตัวระบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย โดยจะต้องสังเกตทั้งตัวระบบ และไฟแสดงสถานะเครื่องชาร์จไปพร้อม ๆ กัน หากพบปัญหาอาจจะลองรีเซ็ตดูก่อนสักครั้งหนึ่ง หากพบว่าปัญหาเครื่องชาร์จนั้นยังไม่หายไป แนะนำว่าให้ติดต่อผู้ใช้บริการที่ได้เข้ามาติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน เพื่อหาทางออกและแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

4. การตรวจสอบความปลอดภัยด้านไฟฟ้า

การหมั่นสังเกตความปลอดภัยและการเชื่อมต่อทางไฟฟ้า รวมถึงสายไฟที่ใช้เป็นระยะ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับคนใช้รถยนต์ EV เช่นกัน เพราะทุกครั้งที่จะใช้งานเครื่องชาร์จ จะต้องมั่นใจว่าอยู่ในสภาพดีและพร้อมในการใช้งาน เป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย ซึ่งการตรวจเช็กในส่วนนี้ก็ต้องสัมพันธ์กับการติดตั้งเครื่องชาร์จด้วยเช่นกัน เพราะการติดตั้งเครื่องชาร์จก็ต้องมีสายดินด้วย เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานเอง

5. การบำรุงรักษาเครื่องชาร์จอย่างสม่ำเสมอ

บางครั้งการดูแลรักษาให้ EV Charger ใช้งานได้อย่างยาวนานและมีประสิทธิภาพ ก็ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่มีความรู้มาตรวจเช็กให้เช่นกัน อาทิ อุปกรณ์ภายใน และหากพบความผิดปกติหรือเห็นว่าเครื่องชาร์จมีปัญหา แนะนำให้ติดต่อกับทีมงานที่มาติดตั้งให้ เพื่อตรวจสอบดูว่าปัญหาที่พบนั้นเกิดจากอะไร มีอุปกรณ์ชำรุดหรือเสียหายภายในหรือไม่
ดังนั้น เมื่อทำการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านไปแล้ว ก็อย่าลืมหมั่นตรวจเช็กความเรียบร้อยทุกครั้ง เพราะหากปัญหาเกิดขึ้นและยังอยู่ในระยะเวลาการรับประกันหลังการติดตั้ง ก็จะได้ให้ทีมงานเข้ามาตรวจเช็กและแก้ไขให้ได้ อย่างไรก็ตาม การบำรุงรักษาผู้ผลิตหรือว่าผู้ให้บริการโดยส่วนมาก จะมีการตรวจสอบอุปกรณ์เป็นระยะ ๆ อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น อย่าลืมใช้บริการและให้ช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบอุปกรณ์ตามกำหนด (อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง)

วิธีการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ภายในของ EV Charger

มั่นใจได้มากกว่า ด้วยการรับประกันงานติดตั้ง 2 ปี ที่ PlugHaus

สำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือว่ารถยนต์ EV ที่กำลังมองหาผู้ให้บริการด้านการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีมาตรฐาน และการรับประกันหลังงานติดตั้งที่ครบวงจร เพียงเลือกใช้บริการกับทาง PlugHaus Thailand วันนี้ ทางเรามีบริการการรับประกันให้นานถึง 2 ปี และยังมีประกันงานวินาศภัยอีก 30 ล้านบาท ไม่รวมสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในบางรุ่น ที่สำคัญ มีงบเริ่มต้นเพียงแค่ 13,900 บาท ก็สามารถติดตั้ง Home Charger ที่บ้านได้แล้ว!

EV Charger คืออะไร มีกี่แบบ แล้วมีเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านดียังไง?

จากการเติบโตของตลาดรถยนต์ EV ในเมืองไทย ก็ต้องยอมรับเลยว่าเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้านั้นมาแรงอย่างต่อเนื่อง การขยายพื้นที่ให้บริการ EV Charger หรือ เครื่องชาร์จรถไฟฟ้า ก็ย่อมเพิ่มจำนวนที่มากขึ้น เพื่อรองรับจำนวนผู้ใช้งานในทุก ๆ พื้นที่เช่นกัน เพราะฉะนั้น ทาง PlugHaus Thailand จะพาคุณมาทำความรู้จักกับ EV Charger Station กันให้มากขึ้น ว่าคืออะไร มีกี่แบบ แล้วแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

ทำความรู้จักกับ EV Charger คืออะไร แล้วมีกี่แบบ

EV Charger คืออะไร?

EV Charger หรือ เครื่องชาร์จรถไฟฟ้า คือ อุปกรณ์หรือระบบที่ใช้สำหรับชาร์จไฟเข้าสู่รถยนต์ไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle (EV) ทุกชนิด เพื่อให้มีพลังงานพร้อมใช้ภายในระบบ โดยตัวระบบของ EV Charger Station หรือก็คือระบบการชาร์จไฟของเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านั้น จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ การชาร์จแบบปกติ หรือที่เรียกกันว่า AC Charger และ การชาร์จแบบเร็ว หรือก็คือ DC Charger โดยการชาร์จแต่ละแบบก็จะมีความต่างกัน ทั้งเรื่องของกระแสไฟฟ้าและความเร็วของการชาร์จในแต่ละครั้ง

EV Charger มีกี่แบบ?

อย่างที่เราอธิบายไปในข้างต้นว่า ระบบการชาร์จไฟของ EV Charger นั้น จะมีทั้งหมด 2 ประเภท คือ AC Charger และ DC Charger เพราะฉะนั้น เราจะพาคุณมาดูความแตกต่างของการชาร์จทั้งสองชนิดนี้กัน ว่าแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เพื่อให้ผู้ใช้รถยนต์ EV สามารถเลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมกับรถที่ใช้

1. การชาร์จแบบปกติ หรือ AC Charger

การชาร์จไฟแบบปกติ Normal Charge หรือที่เรียกกันว่าการชาร์จแบบ AC Charger นั้น คือการชาร์จไฟด้วยไฟฟ้ากระแสสลับจากตัว Wallbox ผ่านตัว On Board Charger ที่มีภายในตัวรถ หลังจากนั้นจะทำการแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสตรงเข้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์ สำหรับการชาร์จแบบปกติหรือ AC Charger นี้ จะมีหัวชาร์จทั้งแบบ Type 1 และ Type 2 ซึ่งในประเทศไทยจะเป็นหัวชาร์จแบบ Type 2 มากกว่า โดยหัวชาร์จชนิดนี้สามารถจ่ายไฟได้สูงสุดถึง 22 kW สำหรับไฟฟ้า 3 Phase และเป็นหัวต่อแบบ 7 Pin เรียกว่าเป็นหัวชาร์จที่เป็นมาตรฐานหัวชาร์จในไทยก็ว่าได้

2. การชาร์จแบบเร็ว หรือ DC Charger

การชาร์จไฟแบบเร็ว Quick Charge หรือ DC Charger นี้ เป็นการชาร์จไฟที่นิยมใช้กับตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV Charger Station ตามสถานีให้บริการชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้า โดยการชาร์จในรูปแบบนี้ ถูกพัฒนามาจากการชาร์จแบบ AC แต่จะใช้วิธีการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรงเข้าสู่แบตเตอรี่ โดยไม่ผ่าน On Board Charger จึงทำให้กระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์ได้ไวกว่า เรียกว่า สามารถชาร์จไฟจาก 10% ไปถึง 80% ได้ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น (ขึ้นอยู่กับความจุแบตของรถ)

โดยการชาร์จในรูปแบบนี้ จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา เช่น ชาร์จไฟเมื่อต้องเดินทางไกลไปต่างจังหวัด แต่จะไม่เหมาะสำหรับการชาร์จเป็นประจำทุกวัน เพราะว่าการชาร์จแบบนี้จะส่งผลต่อตัวแบต ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้ไว โดยปัจจุบันหัวชาร์จที่ใช้กับเครื่องชาร์จแบบ DC Charger นั้น มีทั้งแบบ CHAdeMO และ CCS (มี Type 1 และ Type 2) โดยในไทยจะนิยมใช้เป็น CCS Type 2 (CCS Combo 2)

“การชาร์จไฟด้วยเครื่องชาร์จรถไฟฟ้า DC Charger ถึงแม้ว่าจะสะดวกและรวดเร็วกว่า แต่อัตราค่าบริการก็ถือว่าสูงกว่าการชาร์จแบบ AC Charger พอสมควร ซึ่งการชาร์จแบบเร็วจะนิยมใช้กับสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าตามจุดให้บริการต่าง ๆ ส่วนการติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน จะติดตั้งแบบ AC Charger”

การใช้รถยนต์ไฟฟ้า และการติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน

ใช้รถ EV ควรมีเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านหรือไม่?

สำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น BEV หรือแม้แต่ PHEV ที่ต้องชาร์จไฟเพื่อเก็บพลังงานไว้ในแบตเตอรี่สำหรับใช้งานนั้น การมีเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Charger เอาไว้ที่บ้าน ก็ถือว่าตอบโจทย์และช่วยทำให้การใช้รถสะดวกมากขึ้น เพราะสามารถชาร์จไฟได้ที่บ้าน ไม่ต้องเดินทางไปชาร์จไฟตามสถานีชาร์จรถไฟฟ้าทุกครั้ง เพราะการชาร์จไฟที่บ้านสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า เมื่อชาร์จไฟในเวลา Off-Peak โดยเฉพาะบ้านที่ใช้มิเตอร์ไฟฟ้า TOU

ข้อดีของการมีเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน

  • สามารถชาร์จไฟในเวลาไหนก็ได้ตามต้องการ โดยไม่ต้องไปต่อคิวหรือจองเพื่อใช้บริการสถานีชาร์จ
  • เลือกเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าได้ตามที่ต้องการ ทั้งการติดตั้ง EV Charger ของค่ายรถยนต์ หรือการเลือกซื้อเครื่องชาร์จจากผู้จัดจำหน่ายโดยตรง
  • ไม่ว่าจะเป็นบ้านที่ใช้ระบบไฟฟ้าแบบ 1 Phase หรือ 3 Phase ก็สามารถติดตั้ง EV Charger ได้ โดยที่ไม่ให้กระทบกับการใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
  • สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น เมื่อเลือกใช้มิเตอร์ไฟฟ้าแบบ TOU โดยเฉพาะครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าในเวลา Off-Peak เป็นหลัก
  • ติดตามสถานะของการชาร์จไฟ และคำนวณการใช้ค่าไฟได้ในแต่ละเดือนผ่านทางแอปพลิเคชัน
การติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Charger ที่บ้าน

ติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน เลือกแบบไหนดี?

การติดตั้ง EV Charger ที่บ้านนั้น เริ่มต้นต้องดูจาก “Phase” ของมิเตอร์ไฟฟ้าว่าเป็นแบบไหน ซึ่งส่วนมากแล้วบ้านทั่วไปจะใช้ Single-Phase 15(45)A ซึ่งถือว่ายังไม่พอในการติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้า เพราะโดยทั่วไปแล้วเครื่องชาร์จจะใช้กำลังไฟที่สูงถึง 32A ดังนั้น หากติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแล้วใช้ไฟไปพร้อม ๆ กัน ก็อาจจะทำให้กระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อความต้องการได้ ทำให้เกิดปัญหาฟ้าเกินและทำให้ไฟดับได้

ดังนั้น การติดตั้ง EV Charger หรือ เครื่องชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน จะต้องทำให้ระบบไฟฟ้าสามารถรองรับการโหลดรวมของบ้านได้ เช่น เปลี่ยนมิเตอร์เป็นขนาด Single-Phase 30(100)A หรือ 3-Phase 15(45)A ซึ่งเป็นขนาดมิเตอร์ที่ทางการไฟฟ้าฯ แนะนำ ดังนั้น หากบ้านของคุณยังเป็นมิเตอร์แบบ Single-Phase 5(15)A หรือ Single-Phase 15(45)A จะต้องแจ้งเปลี่ยนขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าก่อนที่จะติดตั้ง EV Charger

เอกสารที่ใช้เพื่อขอเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้ากับ PEA และ MEA

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้านที่ต้องการขอเปลี่ยนขนาดมิเตอร์ไฟฟ้า
  • เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์การครอบครองสถานที่ใช้ไฟฟ้า หากไม่ใช่เจ้าของบ้านต้องมีหนังสือยินยอม
  • ใบเสร็จหรือบิลค่าไฟฟ้าย้อนหลัง (ประมาณ 3 – 4 เดือน)
  • ข้อมูลของรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ เพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่ประเมินว่ามิเตอร์ที่ต้องการเปลี่ยนเพียงพอหรือไม่
  • ใบมอบอำนาจหรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบ หากดำเนินการแทนเจ้าของบ้าน
  • แผนผังโดยสังเขปแสดงที่ตั้งของสถานที่ของใช้ไฟฟ้า

ระยะเวลาการดำเนินงานของการเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้า

  • มิเตอร์ขนาด 5(15)A – 15(45)A ใช้เวลาภายใน 4 วันทำการ
  • มิเตอร์ขนาด 30(100)A – 50(150)A ใช้เวลาภายใน 8 วันทำการ
  • มิเตอร์ขนาด 200A – 400A ใช้เวลาภายใน 18 วันทำการ

หมายเหตุ : ระยะเวลาในการดำเนินการ ไม่รวมเวลาในการเดินทาง และเวลาในการรอคอยนัดหมาย

ติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน เลือก PlugHaus Thailand

ติดตั้ง EV Charger ที่บ้านแบบง่าย ๆ กับ PlugHaus

สำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือผู้ใช้รถ EV ที่กำลังมองหา Home Charger หรือ เครื่องชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน ที่มีมาตรฐานจาก MEA และ PEA พร้อมทีมงานที่มากประสบการณ์ คอยดูแลการติดตั้งในทุกขั้นตอน เพียงเลือกใช้บริการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากับทาง PlugHaus Thailand วันนี้ รับสิทธิพิเศษ พร้อมโปรโมชั่นมากมาย ไม่ว่าจะเลือกติดตั้ง EV Charger ที่บ้านแบรนด์ใดก็ตาม ทางเราก็จะมีประกันคุณภาพพร้อมการบริการหลังการขายแบบครบวงจร ที่สำคัญคือ รับประกันงานหลังติดตั้งนาน 2 ปี และประกันงานวินาศภัยสูงสุด 30 ล้านบาท