fbpx

รีวิว Teison Smart Mini เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ขนาด 7.4 – 22 KW

ในบรรดาเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่เหมาะสมกับรถ PHEV และรถ EV ที่มีราคาสบายกระเป๋า และมีฟังก์ชันที่น่าใช้งาน ก็ต้องยกให้กับ Teison Smart Mini ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์เด็ด ๆ ที่น่าสนใจมากมาย จนขึ้นแท่นเป็นเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านที่น่าใช้งานที่สุดในปี 2024 และที่สำคัญคือ รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Wi – Fi และ Bluetooth เพราะฉะนั้น มาดูรีวิวฉบับเต็มกัน! ว่าเครื่องชาร์จรถไฟฟ้า หรือ Home Charger อย่าง Teison Smart Mini Wallbox มีฟังก์ชันที่น่าสนใจอะไรบ้าง จะคุ้มค่ากับราคาค่าตัวหรือไม่?

Review Teison Smart Mini Wallbox 7.4 kW

จุดเด่นของ Teison Smart Mini เครื่องชาร์จสุดมินิมอล

สำหรับจุดเด่นของเจ้า Teison Smart Mini นั้น ถือว่าเป็นหนึ่งในเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน ที่ถูกออกแบบมาให้มีความกะทัดรัด ดูทันสมัย และมีดีไซน์ที่เรียบแต่ล้ำสมัย อัดแน่นด้วยฟังก์ชันเด่น ๆ ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

  • มีขนาดที่เล็กและมินิมอล ติดตั้งง่าย เหมาะกับทุกพื้นที่การใช้งาน
  • Teison Smart Mini มีกำลังไฟ 7.4 kW
  • ใช้ระบบการชาร์จแบบ Plug and Charge
  • แค่เสียบปลั๊กก็เริ่มต้นการชาร์จได้ทันที
  • สายชาร์จ Home Charger ยาวสูงสุด 7 เมตร
  • มีมาตรฐาน IP65 ป้องกันฝุ่นได้สมบูรณ์ และป้องกันน้ำได้จากทุกทิศทาง

สถานะในการใช้งาน

  • ไฟสีฟ้า หมายถึง พร้อมใช้งาน
  • ไฟสีเขียว หมายถึง อยู่ระหว่างการชาร์จไฟ
  • เมื่อเริ่มชาร์จ จะมีสัญญาณแจ้งเตือนที่หัวชาร์จ

การใช้งานของ Teison Smart Mini

สำหรับเครื่องชาร์จ Teison รุ่น Smart Mini เป็นเครื่องชาร์จที่ใช้กับระบบไฟฟ้า 1 เฟส มีขนาด 32A ใช้หัวชาร์จประเภท Type 2 เพราะฉะนั้น จึงเป็นเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่สามารถใช้งานกับรถ EV ครอบคลุมมาก ๆ เพราะโดยส่วนมากแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าที่ทำตลาดในเมืองไทย จะรองรับหัวชาร์จ Type 2 เป็นหลัก ดังนั้น จึงมั่นใจได้เลยว่า เครื่องชาร์จ Teison Smart Mini จะสามารถใช้งานกับรถยนต์ EV ของคุณได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ จุดเด่นที่น่าสนใจของเจ้า Teison รุ่น Smart Mini ก็คือ คุณสมบัติการทนต่อความร้อนและความเย็น โดยความเย็นต่ำสุดที่รองรับได้คือ -30 องศา และสูงสุดอยู่ที่ 50 องศา ดังนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพอากาศแบบไหน ก็ใช้งานได้อย่างปลอดภัย จะอยู่ที่ร่มหรือกลางแจ้งก็ชาร์จไฟได้โดยไม่ต้องกังวล

โปรโมชั่นพิเศษ เมื่อติดตั้งเครื่องชาร์จ Teison Smart Mini

ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าที่สนใจติดตั้ง Home Charger อย่างเจ้า Teison EV Charger รุ่น Smart Mini กับทาง PlugHaus Thailand ในวันนี้ รับสิทธิพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

  • Teison Smart Mini รุ่น 7 kW สายยาว 7 เมตร ราคาเพียง 17,900 บาท
  • พิเศษ บริการติดตั้งจากผู้เชี่ยวชาญรวมค่าเครื่อง ราคาเพียง 29,900 บาท
  • รับประกันตัวเครื่องยาวนานสูงสุด 2 ปี
  • ประกันวินาศภัย การันตีความปลอดภัยด้วยระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร

หมายเหตุ : ปัจจุบันทาง PlugHaus จำหน่ายเฉพาะ Teison Smart Mini รุ่น 7 kW เท่านั้น

ติดตั้ง Teison Smart Mini เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน กับ PlugHaus

ติดตั้ง Teison Smart Mini ที่มีมาตรฐาน เลือก PlugHaus

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันผู้ให้บริการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน จะมีให้เลือกกันอย่างหลากหลาย แต่สิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการเลือกผู้ให้บริการ คือ ต้องเลือกผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญ มีมาตรฐานการติดตั้งจาก PEA และ MEA และที่ขาดไม่ได้คือ มีการประเมินความเสี่ยงและพื้นที่ในการติดตั้ง Home Charger อย่างละเอียด เพื่อป้องกันปัญหาจากระบบไฟฟ้าที่อาจเกิดขึ้นได้

ดังนั้น หากต้องการเลือกติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Teison Smart Mini Wallbox เพียงเลือก PlugHaus Thailand เพียงเท่านี้เราก็พร้อมจะดูแลคุณแบบครบวงจร ตั้งแต่การเลือกเครื่องชาร์จที่เหมาะสม พร้อมการวางระบบไฟที่บ้านให้มีความเพียงพอต่อการใช้งาน และที่ขาดไม่ได้คือ เรามีบริการหลังการขายที่ครบวงจร เพื่อให้คุณมั่นใจได้มากกว่าเมื่อเลือกติดตั้ง Home Charger กับเรา

รีวิว Riddara RD6 กระบะไฟฟ้าคันแรกในไทย เริ่ม 899,000 บาท

Riddara RD6 เป็นรถกระบะไฟฟ้า 100% คันแรกของไทย ที่เปิดตัวมาพร้อมจัดจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยเป็นรถกระบะที่ส่งตรงจากเครือ Geely ที่ออกแบบมาเพื่อสายออฟโรดโดยเฉพาะ ภายในโครงสร้างตัวถังแบบโมโนค็อกเหมือนกับรถเก๋ง เรียกง่าย ๆ ว่า เป็นรถ SUV ที่ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับรถกระบะที่ใช้น้ำมัน เพราะฉะนั้น หากใครที่กำลังมองหา รถกระบะไฟฟ้า บอกเลยว่า Geely Riddara RD6 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ทั้งประสิทธิภาพการใช้งาน การบรรทุก และที่สำคัญคือ ลุยน้ำได้จริง! กับราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 899,000 บาท

รีวิว Riddara RD6 กระบะไฟฟ้า 100% คันแรกในไทย

Riddara RD6 กระบะไฟฟ้า 100% โดดเด่นด้วยการขับขี่แบบ Off-Road

รถกระบะไฟฟ้า Geely Riddara RD6 (ริดดาร่า) เป็นรถกระบะที่เพิ่งเข้ามาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในตลาดรถ EV ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์รถกระบะพลังงานใหม่ NEV ที่มียอดขายมากที่สุดในจีน ด้วยส่วนแบ่งถึง 61.5% ซึ่งในประเทศไทยนั้นเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 และได้เผยโฉมให้ประชาชนได้มาสัมผัสคันจริงในงาน Motor Expo 2024 ที่ผ่านมา

โดยจุดเด่นของตัวรถ Riddara RD6 คือการออกแบบมาให้มีขนาดที่เพียงพอต่อการใช้งานตามยุคสมัยยานยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่ ด้วยสเปกที่ครอบคลุมการขับขี่ ทั้งยังโดดเด่นด้วยไฟโลโก้ RIDDARA ด้านหน้าขนาดใหญ่ ชนิดที่ว่าใครเห็นก็รู้ว่าเป็นรถกระบะ Riddara RD6 Thailand นอกจากนี้ ตัวด้านหน้ารถรุ่นท็อป 86 kWh ก็ยังมีช่องเก็บของใต้ฝากระโปรงหน้า ที่มีความจุถึง 70 ลิตรมาให้อีกด้วย

รีวิว Riddara RD6 รถกระบะไฟฟ้า 100%

สำหรับตัวรถออกแบบให้เป็นรถกระบะ 4 ประตูทุกรุ่น และรุ่นย่อยแต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างกันที่ระบบขับเคลื่อน และขนาดแบตเตอรี่เท่านั้น ส่วนเรื่องการออกแบบตัวรถกระบะ RD6 นั้น มาพร้อมกับแพลตฟอร์ม M.A.P (Multiplex Attached Platform) โดย Riddara RD6 ลุยน้ำได้สูงสุดถึง 815 มม. และขับเคลื่อนขึ้นทางลาดชันได้สูงสุด 95% (รุ่น Horizon 4WD) เรียกว่า เป็นรถกระบะที่ตอบโจทย์สาย Off-Road แบบเต็มสตรีมเลยก็ว่าได้

รีวิว Riddara RD6 รถกระบะไฟฟ้า 100%

มิติตัวรถ Geely Riddara RD6

  • มิติตัวถัง (ยาว x กว้าง x สูง) 5,260 x 1,900 x 1,880 มม.
  • มิติกระบะ (ยาว x กว้าง x สูง) 1,525 x 1,450 x 540 มม.
  • ระยะฐานล้อ 3,120 มม.
  • ระยะต่ำสุดจากพื้น 225 มม.

แบตเตอรี่ Riddara RD6 และระยะทางวิ่งสูงสุด

  • Riddara RD6 2WD แบตเตอรี่ 63 kWh วิ่งได้ระยะทาง 373 กม./ชาร์จ (NEDC)
  • Riddara RD6 2WD แบตเตอรี่ 73 kWh วิ่งได้ระยะทาง 461 กม./ชาร์จ (NEDC)
  • Riddara RD6 4WD แบตเตอรี่ 73 kWh วิ่งได้ระยะทาง 424 กม./ชาร์จ (NEDC)
  • Riddara RD6 4WD แบตเตอรี่ 86 kWh วิ่งได้ระยะทาง 455 กม./ชาร์จ (NEDC)
รีวิว Riddara RD6 รถกระบะไฟฟ้า 100%)

สีตัวถังและสีภายในห้องโดยสาร

สีตัวถังหรือสีภายนอก

  • สีเขียว หลังคาดำ Nordic Green / Black Top
  • สีขาว หลังคาดำ White Cloud / Black Top
  • สีดำ Black Night
  • สีเงิน Moonlit Silver
  • สีน้ำเงิน Serene Blue

สีภายในห้องโดยสาร

  • สีทูโทน น้ำตาล สลับดำ
  • สีทูโทน เขียวเข้ม สลับดำ
สเปกรถกระบะไฟฟ้า Riddara RD6 และการลุยน้ำ

ความสามารถของ Riddara RD6 ด้านการบรรทุก และลุยน้ำ

รุ่นมอเตอร์ 1 ตัว

  • รองรับการบรรทุกสูงสุด 1,030 กิโลกรัม
  • รองรับน้ำหนักการลากจูงสูงสุด 2,500 กิโลกรัม
  • ความสามารถในการลุยน้ำลึก 500 มิลลิเมตร

รุ่นมอเตอร์ 2 ตัว

  • รองรับการบรรทุกสูงสุด 1,030 กิโลกรัม
  • รองรับน้ำหนักการลากจูงสูงสุด 3,000 กิโลกรัม
  • ความสามารถในการลุยน้ำลึก 815 มิลลิเมตร
รีวิวภายใน Riddara RD6 รถกระบะไฟฟ้า 100%

ระบบ Entertainment และความบันเทิง

โดยตัวระบบ Entertainment ภายในรถ Riddara RD6 นั้น ถือว่ามีให้มาแบบไม่มีกั๊ก แต่ในรุ่นย่อยจะมีความแตกต่างกันพอสมควร เช่น หน้าจอกลางในรุ่น 63 kWh จะมีขนาด 12.3 นิ้ว ส่วนในรุ่น 73 kWh มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเป็น 14.6 นิ้ว เช่นเดียวกับตัวลำโพงที่ในรุ่นย่อยก็จะให้จำนวนมาไม่เท่ากัน โดยรุ่นท็อปมีถึง 8 ตำแหน่ง แต่ที่น่าสนใจคือ มีแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย 50 W มาให้ (ตั้งแต่รุ่น 73 kWh ขึ้นไป) พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รองรับการเชื่อมต่อหลายแบบ ทั้ง Wi-Fi, Apple CarPlay และ Carbit Link เรียกว่า มีให้ครบและจบภายในคันเดียว ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นไปจนถึงรุ่นท็อปสุดกันเลยก็ว่าได้

รีวิว Riddara RD6 รถกระบะไฟฟ้า

ฟังก์ชันและระบบความปลอดภัย Riddara RD6

อุปกรณ์พื้นฐาน และฟังก์ชันการใช้งาน

  • ระบบ V2L สูงสุด 6 kW (ยกเว้นรุ่น 63 kWh)
  • เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
  • เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง (ยกเว้นรุ่น 63 kWh)
  • ระบบระบายอากาศอัตโนมัติ Dual-Zone
  • แท่นชาร์จมือถือไร้สาย (ยกเว้นรุ่น 63 kWh)
  • รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay
  • ระบบ Carbit link
  • กุญแจแบบสมาร์ทคีย์
  • ระบบ Keyless Entry (ยกเว้นรุ่น 63 kWh)
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone
  • ระบบปรับอากาศสําหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • ระบบกรองอากาศ PM2.5 และ CN95 (ยกเว้นรุ่น 63 kWh)
  • เบาะปรับเอนแบบ One-touch
  • การควบคุมระยะไกลผ่านแอปพลิเคชัน
รีวิวระบบความปลอดภัย รถกระบะ Riddara RD6

ระบบความปลอดภัย

  • กล้องมองหลังขณะถอยจอด (เฉพาะรุ่น 63 kWh)
  • กล้องมองภาพรอบคัน 540° พร้อมภาพใต้ท้องรถ (ยกเว้นรุ่น 63 kWh)
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB
  • ระบบ Auto Hold
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC)
  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (EBA)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS)
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HHC)
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
  • ระบบตรวจสอบความดันลมยาง (TPMS)
  • รุ่น 63 kWh มีถุงลมนิรภัย 4 จุด นอกนั้น 6 จุด
  • ระบบติดตั้งคาร์ซีทแบบ ISOFIX มาตรฐานสากล

ระบบช่วยเหลือการขับขี่

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
  • ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (AEB)
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKA)
  • ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน (ELKA)
  • ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD)
  • ระบบเตือนก่อนเปิดประตู (DOW)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
  • ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW)
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (FDA)
รีวิวสเปก Riddara RD6 และราคาจำหน่ายในไทย

ราคาจำหน่าย Riddara RD6 2025

  • RIDDARA RD6 รุ่นแบตเตอรี่ 63 kWh ขับเคลื่อนล้อหลัง ราคา 899,000 บาท
  • RIDDARA RD6 รุ่นแบตเตอรี่ 73 kWh ขับเคลื่อนล้อหลัง ราคา 999,000 บาท
  • RIDDARA RD6 รุ่นแบตเตอรี่ 73 kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,149,000 บาท
  • RIDDARA RD6 รุ่นแบตเตอรี่ 86 kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,299,000 บาท

สรุป

สำหรับรถกระบะไฟฟ้า Riddara RD6 คันนี้ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่น โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีความอรรถประโยชน์มากขึ้น ใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้ ลุยน้ำได้จริง โดยไม่ต้องกังวลเวลาขับขี่ในสถานการณ์ต่าง ๆ สำคัญคือ รองรับการขับขี่แบบ Off-Road นอกจากนี้ ยังมีระยะทางขับขี่ที่ไกล ด้วยระบบการขับเคลื่อนทั้งแบบ 2WD และ 4WD เรียกได้ว่า Geely Riddara RD6 Thailand เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจับตามองมาก ๆ ในปี 2025 นี้ ชนิดที่ว่าอาจแบ่งยอดขายจากรถกระบะที่ใช้เชื้อเพลิงมาได้พอสมควร

รีวิว BYD Sealion 7 รถยนต์ไฟฟ้า 100% ราคา 1,149,000 บาท

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งรถยนต์ไฟฟ้าที่ฮอตฮิตมาก ๆ ในตอนนี้ สำหรับ BYD Sealion 7 ที่นอกจากจะเปิดตัวพร้อมเฉยโฉมอย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2024 ที่ผ่านมาแล้ว ยังสามารถทุบสถิติยอดจอง BYD Sealion ได้สูงสุดของค่ายอีกต่างหาก เพราะฉะนั้น ทาง Plughaus Thailand ก็ไม่พลาด ที่จะมาเจาะลึกทุกข้อมูลเด็ด ด้วยการ รีวิว BYD Sealion 7 2025 ให้กับชาว EV Lovers กัน ว่ามีสเปกที่น่าสนใจมากน้อยแค่ไหน อัตราสิ้นเปลืองเป็นอย่างไร สามารถขับขี่ได้ไกลแค่ไหนต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง และที่สำคัญคือ มีราคาจำหน่ายเท่าไหร่ แล้วรุ่นย่อยมีรุ่นไหนบ้าง สรุปให้ครบทุกข้อมูลแน่นอน!

รีวิว BYD Sealion 7 รถยนต์ไฟฟ้า EV 100%

จุดเด่นของ BYD Sealion 7 รถยนต์ EV 100%

สำหรับจุดเด่นของเจ้า BYD Sealion 7 รถยนต์ไฟฟ้า EV รุ่นใหม่จากค่าย BYD นั้น ก็คือการเป็นรถ C-SUV ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ใช้รูปทรงแบบ Fastback เน้นฐานล้อต่ำ เพื่อให้ความโฉบเฉี่ยว พร้อมระบบส่งกำลังอัจฉริยะแบบ 8 in 1 ที่เมื่อบวกกับเทคโนโลยีการประกอบแบตเตอรี่ Cell-to-Body และระบบห้องโดยสารอัจฉริยะด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้การขับขี่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

รีวิวสเปก และจุดเด่นของ BYD Sealion 7

โดยการออกแบบของ Sealion 7 ได้แรงบันดาลใจจากความพลิ้วไหวของสายน้ำ และมวลอากาศ โดยด้านหน้าออกแบบด้วยดีไซน์ “Ocean X” กับรูปทรงตัว X ที่ให้ความทันสมัยและทรงพลัง ส่วนไฟหน้าดีไซน์แบบ “Double U” ที่เป็นเอกลักษณ์ของทางแบรนด์ นอกจากนี้ BYD Sealion 7 สามารถวิ่งได้ไกลถึง 567 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง เรียกว่า เป็นอัตราสิ้นเปลืองที่ทำได้ดีมาก ๆ ในรถกลุ่มรถยนต์ EV 100% ประเภท C-SUV ที่จำหน่ายในไทยตอนนี้

รีวิวภายนอก BYD Sealion 7

รุ่นย่อยของ BYD Sealion 7 และราคาจำหน่าย

  • รุ่น Premium ราคา 1,149,900 บาท
  • รุ่น AWD Performance ราคา 1,249,900 บาท

สีตัวถัง

  • Quantum Black
  • Horizon White
  • Space Grey
  • Shark Grey (เฉพาะรุ่น AWD Performance)
รีวิวภายนอก และมิติตัวถัง BYD Sealion 7

สเปกและอุปกรณ์ของตัวรถ

มิติตัวถัง

  • ยาว x กว้าง x สูง (มม.) 4,830 x 1,925 x 1,620
  • ระยะฐานล้อ 2,930 มม.
  • ความพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง 500 ลิตร
  • ระยะจากพื้นถึงตัวรถ รุ่น Premium 157 มม. รุ่น AWD Performance 163 มม.
  • น้ำหนักตัวรถ รุ่น Premium 2,225 กก. รุ่น AWD Performance 2,340 กก.
รีวิวภายนอก และมิติตัวถัง BYD Sealion 7

รูปแบบการชาร์จไฟ

  • รองรับ Home Charger ประเภท AC Type 2 (กำลังสูงสุด 11 kW) หรือ DC CCS 2 (กำลังสูงสุด 150 kW)

อุปกรณ์มาตรฐานภายนอกรถ

  • ไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบเปิด – ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
  • ฟังชันหน่วงเวลาการปิดไฟหน้า Follow – Me – Home
  • ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
  • ไฟท้ายแบบ LED พร้อมไฟตัดหมอกด้านหลัง
  • ระบบไฟเลี้ยวหน้า – หลัง แบบ Sequential
  • ประตูท้ายระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี
  • กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติ พร้อมระบบไล่ฝ้า
  • ระบบบันทึกตำแหน่งกระจกมองข้าง
  • กระจกด้านหน้าเก็บเสียงแบบสองชั้น
  • ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบอัตโนมัติ
  • กระจกด้านหลังพร้อมระบบทำร้อนร้อนไล่ฝ้า
รีวิว BYD Sealion 7

อุปกรณ์และฟังก์ชันภายในตัวรถ

  • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ที่พักขาปรับได้ 2 ทิศทาง
  • เบาะนั่งพร้อมกับ Welcome Seat
  • เบาะนั่งโดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
  • มีระบบกรองอากาศ PM2.5 ระดับ CN95 พร้อม IONIZER
  • หน้าจอเรือนไมล์แบบ LCD 3 มิติ ขนาด 10.25 นิ้ว
  • หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมระบบแสดงผลบนกระจกหน้า
  • ใช้ระบบเครื่องเสียง CYNAUDIO ลำโพง 12 ตำแหน่ง
  • หลังคา Panoramic Glass Roof ลดความร้อนพร้อมกรองแสง UV
  • ไฟ Ambient Light ภายในห้องโดยสาร 128 เฉดสี
  • ใช้เบาะหุ้มหนังแท้ Nappa
  • กระจกกันเสียง Acoustic พร้อมฟิล์ม PVB Resin ในกระจกบังลมหน้า
  • ใช้วัสดุฉนวนกันเสียงรอบคัน รวมถึงฉวนกันเสียงรอบมอเตอร์
รีวิวภายใน BYD Sealion 7

ขุมพลัง BYD Sealion 7 และระยะทางการขับขี่สูงสุด

สำหรับ BYD Sealion 7 นอกจากจะมีขุมพลังที่สูงและให้พละกำลังที่ดีแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้คือ การใช้ช่วงล่างด้านหน้าแบบ Double Wishbone และด้านหลังแบบ Multi – link ที่ทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือน พร้อมปรับอัตโนมัติตามความเร็วแบบ FSD (Frequency Selective Damping) ที่ช่วยปรับระดับความหนืดของโช้คอัดตามสภาพถนน ทำให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยและมั่นคง ส่วนสเปกของขุมพลังนั้น ในรุ่น Premium และ AWD Performance จะมีความแตกต่างกัน ดังนี้

BYD Sealion 7 รุ่น Premium

สำหรับรุ่นย่อย Premium เป็นรุ่นเริ่มต้นของ BYD Sealion 7 ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 230 กิโลวัตต์ (323 PS) แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน – เมตร ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. โดยใช้เวลาเพียง 6.7 วินาที ใช้แบตเตอรี่ Blade Battery ความจุ 82.5 kWh ที่สามารถทำระยะทางขับขี่สูงสุดได้ถึง 567 กม. (มาตรฐาน NEDC)

BYD Sealion 7 รุ่น AWD Performance

โดยรุ่นย่อย AWD Performance ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังสูงสุด 390 กิโลวัตต์ (530 PS) ให้แรงบิดสูงสุด 690 นิวตัน – เมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาที ส่วนแบตเตอรี่ Blade Battery มีความจุ 82.5 kWh ขับขี่ได้สูงสุดที่ 542 กม. (มาตรฐาน NEDC)

รีวิวภายใน BYD Sealion 7

สรุป

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า BYD Sealion 7 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรถยนต์ EV ที่มาแรงมาก ๆ ในปลายปี 2024 นี้ และคาดว่าจะเป็นรถรุ่นหลักที่สร้างยอดขายได้ดีของค่าย BYD ทั้งสเปกที่ครอบคลุมการใช้งาน มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ทั้งยังมีราคาที่ไม่ได้แตกต่างจากคู่แข่งมากนัก หากเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าในไซซ์เดียวกันกลุ่ม C-SUV อาทิ Leapmotor C10 ที่เปิดตัวพร้อม ๆ กันในงาน Motor Expo 2024 ที่ผ่านมา โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,098,000 บาท

นอกจากนี้ หากคุณมีรถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถยนต์ EV ไว้ใช้งานที่บ้านอยู่แล้ว ต้องการติดตั้ง Home Charger ที่มีคุณภาพ ผ่านมาตรฐานการติดตั้งจาก PEA และ MEA ด้วยทีมวิศวกรที่มีประสบการณ์ เพียงเลือกติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านกับ PlugHaus Thailand วันนี้ รับสิทธิพิเศษมากมาย ทั้งบริการหลังการขาย พร้อมประกันวินาศภัยในราคาที่จับต้องได้!