ขั้นตอนขอมิเตอร์ไฟฟ้า กฟผ. และ กฟน. อัปเดตใหม่พร้อมราคา

การดำเนินการขอมิเตอร์ไฟฟ้า ตัวที่ 2 สำหรับการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือ Home Charger ที่บ้าน สามารถดำเนินการได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองที่ กฟผ. และ กฟน. ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่อยู่อาศัย และการพื้นที่การดูแลของการไฟฟ้า ซึ่งการติดตั้งมิเตอร์ตัวที่สอง ไม่จำเป็นต้องมีขนาดหรือว่าเป็นประเภทเดียวกันกับมิเตอร์ตัวแรก ก็สามารถติตดั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าได้เช่นกัน

ขั้นตอนการขอมิเตอร์ไฟฟ้า ปี 2568 พร้อมราคา

3 ขั้นตอนการขอมิเตอร์ไฟฟ้า อัปเดตล่าสุดปีนี้!

1. ยื่นเอกสารพร้อมชำระเงินที่ PEA หรือ MEA

ขั้นตอนแรกของการขอมิเตอร์ไฟฟ้ากับทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) หรือการไฟฟ้านครหลวง (MEA) จะต้องดำเนินการยื่นเอกสารพร้อมชำระเงินอัตราค่าบริการ โดยจะมีการกำหนดอย่างชัดเจน ตามขนาดมิเตอร์และระบบไฟฟ้าที่ใช้

2. นัดวันตรวจสอบมาตรฐานการติดตั้งระบบไฟฟ้า

หลังจากดำเนินการยื่นขอมิเตอร์ไฟฟ้าใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะต้องดำเนินการนัดวันตรวจสอบมาตรฐานการติดตั้งระบบไฟฟ้าของที่พักอาศัย โดยสถานที่ที่ใช้ไฟฟ้าจะต้องมีการดำเนินงาน เพื่อให้รองรับการชาร์จโหมด 2 หรือ โหมด 3 ตามมาตรฐานของทางการไฟฟ้า โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “ระบบไฟฟ้าภายในของมิเตอร์ที่ 1 และมิเตอร์ที่ 2 ต้องแยกออกจากกันโดยเด็ดขาด”

3. ติดตั้งมิเตอร์เครื่องที่ 2 พร้อมวิธีการจ่ายค่าไฟ

ขั้นตอนการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าเครื่องที่ 2 โดยปกติแล้วจะดำเนินการประมาณ 2 – 5 วันทำการ ขึ้นอยู่กับพื้นที่และจำนวนผู้ใช้บริการ ซึ่งเมื่อมีการติดตั้งมิเตอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รูปแบบการจ่ายค่าไฟฟ้าจะแตกต่างจากเดือนที่ผ่านมาอย่างชัดเจน เพราะจะแยกใบแจ้งค่าไฟฟ้าตามรายมิเตอร์

หมายเหตุ : สามารถขอมิเตอร์ไฟฟ้าออนไลน์ของทาง MEA ได้ที่เว็บไซต์ Measy ผ่านทาง www.mea.or.th หรือที่แอปพลิเคชัน MEA Smart Life แต่หากเป็นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สามารถยื่นขอมิเตอร์ไฟฟ้าออนไลน์ได้ที่ PEA Mobile Application

ขอมิเตอร์ไฟฟ้าปี 2568 ใช้เอกสารอะไรบ้าง?

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง (Passport) สำหรับชาวต่าติ
  • สำเนาทะเบียนบ้าน หรือทะเบียนอาคารที่ต้องการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า
  • เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ครอบครองสถานที่ใช้ไฟฟ้า หากไม่ใช้เจ้าของบ้านต้องมีหนังสือยินยอม
  • บิลค่าไฟฟ้า สำหรับการประเมินของ กฟผ. และ กฟน.
  • รายละเอียดข้อมูลและอุปกรณ์ของ EV Charger หรือ รถยนต์ EV
  • สำเนาการเปลี่ยนชื่อหากมีการเปลี่ยนชื่อตัว หรือชื่อสกุล
  • ใบคำขอใช้ไฟฟ้า โดยสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่เว็บไซต์การไฟฟ้าโดยตรง
  • ใบมอบอำนาจและสำเนาบัตรของผู้รับมอบ ในกรณีที่ไม่ได้ดำเนินเรื่องขอมิเตอร์ไฟฟ้าด้วยตัวเอง
การขอมิเตอร์ไฟฟ้ากับ กฟภ. และ กฟน.

ราคาติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าเครื่องที่ 2 ปี 2568

สำหรับการขอมิเตอร์ไฟฟ้าสำหรับการติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือว่าการไฟฟ้านครหลวง จะมีค่าใช้จ่ายตามการเพิ่มขนาดมิเตอร์ที่ใช้ รวมถึงการเลือกใช้ว่าจะเป็นมิเตอร์ธรรมดา และ มิเตอร์ TOU ที่จะมีการคิดอัตราค่าไฟแบบ On – Peak และ Off – Peak ตามช่วงเวลา

ระบบไฟฟ้า 1 เฟส

  • มิเตอร์ธรรมดา ขนาด 15(45) และ 30(100) ราคา 700 บาท
  • มิเตอร์ TOU ขนาด 15(45) และ 30(100) ราคา 3,740 บาท

ระบบไฟฟ้า 2 เฟส

  • มิเตอร์ธรรมดา ขนาด 15(45) ราคา 700 บาท
  • มิเตอร์ธรรมดา ขนาด 30(100) ราคา 1,500 บาท
  • มิเตอร์ TOU ขนาด 15(45) และ 30(100) ราคา 5,340 บาท

หมายเหตุ : เป็นราคาสำหรับการขอติดตั้งมิเตอร์เครื่องที่ 2 จากทาง PEA ปี 2568 โดยการดำเนินการจะใช้เวลาประมาณ 2 – 5 วันทำการ ส่วนการเปลี่ยนเป็นมิเตอร์ TOU ของ MEA แรงดันต่ำมีค่าใช้จ่าย 6,640 บาท ส่วนแรงสูงมีค่าใช้จ่าย 7,350 บาท (ราคารวมสุทธิ)

นอกจากการขอมิเตอร์ไฟฟ้าใหม่ จากทางการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังมีอัตราค่าบริการสำหรับค่าเดินสายไฟและติดตั้งระบบไฟฟ้า เพื่อให้รองรับ EV Charger เช่นกัน ซึ่งโดยส่วนมากแล้วผู้ให้บริการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า จะมีบริการทั้งการติดตั้งเครื่องชาร์จ และการเดินสายเมน พร้อมการออกแบบระบบไฟแบบครบ จบ ในที่เดียว โดยที่เจ้าของบ้านหรือว่าลูกค้าไม่ต้องไปดำเนินการด้วยตัวเอง

เช่นเดียวกับทาง PlugHaus Thailand ที่มีการวางระบบไฟฟ้า พร้อมตัวเลือกของ Home Charger หลายแพ็กเกจ เช่น หากต้องการติดตั้งเครื่องชาร์จพร้อมวงจรที่ 2 ของเครื่องชาร์จ Tesla Home Charging All-Vehicle Package ก็มีราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 51,990 บาท สำหรับระบบไฟฟ้า 1 เฟส เท่านั้น หรือหากเป็นระบบไฟฟ้า 3 เฟส ก็จะได้รับโปรโมชั่นพิเศษ 55,990 บาท รวมทุกบริการพร้อมเครื่องชาร์จ Tesla

ติดตั้ง Home Charger เลือก Plughaus Thailand

ติดตั้ง Home Charger แบบครบวงจร เลือก PlugHaus

สำหรับผู้ที่สนใจติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือ Home Charger ที่มีมาตรฐาน ในราคาที่คุ้มค่า มาพร้อมบริการแบบครบวงจร ทั้งการติดตั้งเครื่องชาร์จไฟ การเดินสายไฟพร้อมออกแบบพื้นที่ชาร์จที่ปลอดภัย และทีมงานที่มีมาตรฐานในการให้บริการ เพียงลงทะเบียนรับโปรโมชั่นสุดพิเศษจากทาง PlugHaus Thailand วันนี้ ก็รับสิทธิพิเศษได้ก่อนใคร ทั้งประกันงานติดตั้ง ส่วนลดพิเศษของเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่น และที่ขาดไม่ได้คือ การรับประกันทั้งเครื่องชาร์จและระบบไฟฟ้าแบบครบวงจร

รีวิวรถยนต์ไฟฟ้า Deepal S05 กับตัวเลือก 2 พลังงาน EV และ REEV

นาทีนี้เรียกว่าไม่มีใครไม่รู้จัก Deepal S05 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดส่งตรงจาก ChangAn อย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาต่ำกว่าล้านแล้ว ยังมี 2 พลังงานให้เลือก ทั้งรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่เป็น BRV 100% และ REEV เพราะฉะนั้น เราจะพาคนรักรถมาดูกันว่า Deepal S05 สเปกเป็นยังไงบ้าง น่าสนใจแค่ไหน มีฟังก์ชันอะไรเด่น ๆ บ้าง รวมถึงราคาจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ หลังเปิดตัวในงาน Motor Show 2025 ที่ผ่านมา

รีวิว สเปก Deepal S05 EV vs REEV พร้อมราคาจำหน่าย

Deepal S05 รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 2 ทางเลือก

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Deepal S05 ที่เปิดตัวในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ ในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 46 ที่ผ่านมา ก็ถือว่าสร้างเสียงฮือฮาในกลุ่มคนรักรถ EV ได้เป็นอย่างดี เพราะงานนี้เปิดตัวมาพร้อมกับตัวเลือกพลังงาน 2 รูปแบบ คือ รถยนต์ไฟฟ้า BEV 100% และรถยนต์พลังงานทางเลือก REEV Plug – in Hybrid ที่ใช้น้ำมันควบคู่กับพลังงานไฟฟ้า ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่มากขึ้น สำหรับรถ Deepal S05 2025 ที่จำหน่ายในไทย

รีวิว สเปก Deepal S05 EV vs REEV พร้อมราคาจำหน่าย

ราคาจำหน่าย Deepal S05

ราคา Deepal S05 BEV 100%

  • Deepal S05 BEV LITE ราคา 799,000 บาท
  • Deepal S05 BEV PLUS ราคา 849,000 บาท
  • Deepal S05 BEV MAX ราคา 899,000 บาท

ราคา Deepal S05 REEV

  • Deepal S05 REEV MAX ราคา 999,000 บาท
  • Deepal S05 REEV PLUS ราคา 949,000 บาท

สีตัวถัง

Deepal S05 BRV Lite

  • สีขาว Moonlight White
  • สีเทา Ganymede Grey
  • สีภายในห้องโดยสาร : สีดำ

Deepal S05 BRV Plus และ REEV Plus

  • สีขาว Moonlight White
  • สีดำ Deep Space Black
  • สีเงิน Mercury Silver
  • สีภายในห้องโดยสาร : สีดำ

Deepal S05 BRV Max และ REEV Max

  • สีขาว Moonlight White
  • สีดำ Deep Space Black
  • สีเงิน Mercury Silver
  • สีฟ้า Andromeda Blue
  • สีภายในห้องโดยสาร : สีส้ม
รีวิว สเปก Deepal S05 EV vs REEV พร้อมราคาจำหน่าย

มิติตัวถัง Deepal S05

  • ยาว x กว้าง x สูง : 4,620 x 1,900 x 1,600 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2,880 มม.
  • ความสูงจากใต้ท้องรถ 169 มม.
  • ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
  • ขนาดยาง 225/60 R18
รีวิวภายนอกรถยนต์ไฟฟ้า Deepal S05 EV vs REEV พร้อมราคาจำหน่าย

ระยะทางวิ่งของ Deepal S05 รุ่น BEV และ REEV

สเปกและสมรรถนะการขับขี่รุ่น BEV

ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor และแบตเตอรี่ Lithium Iron Phosphate ความจุ 56.1 kWh ให้กำลังสูงสุด 283 แรงม้า (PS) แรงบิดอยู่ที่ 320 นิวตัน – เมตร สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 470 กม. (มาตรฐาน NEDC) รองรับการชาร์จไฟด้วยเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า AC สูงสุด 6.6 กิโลวัตต์ ส่วน DC อยู่ที่ 151.5 กิโลวัตต์

สเปกและสมรรถนะการขับขี่รุ่น REEV

สำหรับ Deepal S05 REEV ใช้พลังงาน 2 รูปแบบ ระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์เบนซิน (Plug – in Hybrid) ที่เมื่อใช้น้ำมันรวมกับไฟฟ้าแล้วสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 1,000 กม. โดยเครื่องยนต์ใช้ Range – Extender Engine 4 สูบ 16 วาล์ว VVT ความจุ 1,497 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้า (PS) ส่วนแบตเตอรี่ใช้ Lithium Iron Phosphate ความจุ 27.28 kWh ให้กำลัง 218 แรงม้า (PS) รองรับทั้งการชาร์จไฟแบบ AC และ DC Charging

อุปกรณ์ภายนอกของ Deepal S05

สำหรับอุปกรณ์ภายนอกของ Deepal S05 ในแต่ละรุ่น จะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น รวมถึงรถรุ่น BRV และ REEV ซึ่งหากเป็นรุ่น REEV Plus จะได้อุปกรณ์เหมือน BRV Plus เช่นเดียวกับรุ่น REEV Max ที่ก็จะได้อุปกรณ์เหมือนรถยนต์ไฟฟ้า BRV Max เช่นกัน โดยอุปกรณ์ภายนอกของ Deepal S05 มีดังนี้

  • ไฟส่องสว่างสําหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
  • ไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ
  • ไฟหน้าปรับระดับได้
  • ไฟท้ายแบบ LED Star Wing
  • ไฟตัดหมอกหลัง
  • ประตูแบบไร้ขอบกระจก
  • กระจกบังลมหน้าแบบมีระบบไล่ฝ้าอัตโนมัติ
  • กระจกมองข้างปรับและพับแบบไฟฟ้า
  • ระบบทําความร้อนไล่ฝ้าที่กระจกมองข้าง
  • กระจกมองข้างพับอัตโนมัติเมื่อล็อกรถ
  • ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
  • สปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรกดวงที่สาม
  • ช่องเก็บสัมภาระใต้ฝากระโปรงหน้า (159 ลิตร)

โดย Deepal S05 Plus จะได้มือจับประตูไฟฟ้าด้านนอกแบบซ่อน และที่ปัดน้ำฝนด้านหลังแบบไร้โครงเพิ่มเข้ามา ส่วนถ้าเป็นรุ่น Max จะมีหลังคากระจกแบบพาโนรามา พร้อมกับม่านหลังคาไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังมีประตูเปิด – ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบกันหนีบ รวมถึงระบบการจดจำตำแหน่งของกระจกมองข้าง ที่สามารถปรับองศาได้อัตโนมัติ

รีวิวภายในรถยนต์ไฟฟ้า Deepal S05 EV vs REEV พร้อมราคาจำหน่าย

อุปกรณ์ภายในของ Deepal S05

สำหรับอุปกรณ์ภายในของ Deepal S05 ก็จะมีอุปกรณ์พื้นฐานเหมือน ๆ กัน โดยรุ่น Lite จะมีอุปกรณ์ที่ครอบคลุมการใช้งาน ทั้งพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน, ช่องเสียบ USB รวมถึงระบบ Entertainment ภายในรถ ที่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน

  • พวงมาลัยแบบ Multifunction มาพร้อมกับปุ่ม Shortcut ปรับได้ 4 ทิศทาง
  • กระจกไฟฟ้า 4 บาน เปิด-ปิดแบบ One-touch พร้อมระบบกันหนีบ
  • เบาะหนังสังเคราะห์พร้อมรูระบายอากาศ โดยเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
  • เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
  • พนักพิงเบาะหลังพับได้แบบ 60:40
  • แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกและไฟส่องสว่าง
  • ไฟอ่านหนังสือแบบ LED
  • จํานวนช่องเสียบ USB: USB-A 2 ตำแหน่ง / USB-C 1 ตำแหน่ง
  • ช่องจ่ายไฟแบบ 12 โวลต์
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
  • ระบบการกรองฝุ่น PM 2.5
  • โหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Comfort, Sport และ Customize
  • หน้าจอสัมผัสขนาด 15.4 นิ้ว
  • ระบบนำทาง
  • ระบบเลือกโหมดสถานการณ์
  • ลำโพง 8 ตำแหน่ง
  • ลำโพงภายนอกแบบปรับเปลี่ยนเสียงได้
  • ระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยและอังกฤษอัจฉริยะ แบบ 2 โซน
  • การเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ
  • รองรับ Apple Carplay และ Android Auto แบบไร้สาย
  • กุญแจอัจฉริยะ

สำหรับรุ่น Plus จะมีอุปกรณ์ภายในที่ถูกเพิ่มมาจากรุ่น Lite ทั้งหมด 4 รายการ ได้แก่ ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า พร้อมกับระบบนำทางแบบ AR มีแอปพลิเคชันความบันเทิงแบบออนไลน์ ทั้งยังมีระบบควบคุมรถผ่านแอป และที่ขาดไม่ได้คือ สามารถควบคุมการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านทางออนไลน์ได้ ส่วนรุ่น Max ก็จะถูกเพิ่มฟังก์ชันต่าง ๆ เข้ามาอีกหลายอย่าง เช่น ระบบการจดจำตำแหน่งเบาะคนขับ พร้อมกับระบบ Easy Entry & Exit ทั้งยังมีไฟสร้างบรรยากาศถึง 64 สี ส่วนหน้าจอสัมผัสใช้ขนาด 15.4 นิ้ว แบบซันฟลาวเวอร์

รีวิวภายในรถยนต์ไฟฟ้า Deepal S05 EV vs REEV พร้อมราคาจำหน่าย

ฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่ของ Deepal S05 ที่น่าสนใจ

นอกเหนือจากอุปกรณ์ภายในและภายนอกของ Deepal S05 ที่มีความครอบคลุมแล้ว ฟังก์ชันและระบบการช่วยเหลือการขับขี่ก็ถือว่าครบครันเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบนำรถเข้าออกช่องจอดในแนวตรงจากระยะไกล ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบควบคุมรถให้อยู่ในกลางเลน ระบบการเตือนหากพบความเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ รวมถึงระบบช่วยเตือนระยะห่างจากรถคันหน้า ซึ่งระบบต่าง ๆ เหล่านี้ในรุ่น Lite และ Plus จะได้เหมือนกัน ส่วนในรุ่น Max จะถูกเพิ่มระบบการควบคุมรถให้อยู่ในเลนขณะฉุกเฉินเข้ามา รวมถึงระบบการช่วยเตือนหากเสี่ยงต่อการชนจากด้านหลัง ฯลฯ

รีวิวภายในรถยนต์ไฟฟ้า Deepal S05 EV vs REEV พร้อมราคาจำหน่าย

ระบบความปลอดภัยพื้นฐานของ Deepal S05 ทุกรุ่น

ทางด้านของระบบความปลอดภัยภายในรถที่ถูกเพิ่มเข้ามาให้ผู้ขับขี่ในทุก ๆ รุ่นย่อย ก็ถือว่าครบครันตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นอย่างรุ่น Lite ไม่ว่าจะเป็น ถุงลมนิรภัย, กล้องมองภาพ 360 องศา แบบ 3D, โหมดเฝ้าระวัง, ระบบป้องกันล้อล็อก, ระบบป้องกันรถพลิกคว่ำ, เสียงเตือนคนภายนอกขณะขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ, ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อมกับ Auto Hold, ระบบสัญญาณป้องกันขโมย และที่ขาดไม่ได้คือ ระบบตรวจจับแรงดันลมยาง พร้อมกับอุปกรณ์การอุดการรั่วซึมแบบชั่วคราว ฯลฯ

รีวิว สเปก รถยนต์ไฟฟ้า Deepal S05 EV vs REEV พร้อมราคาจำหน่าย

สรุป

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Deepal S05 ทั้งรุ่น BRV ไฟฟ้า 100% และรถยนต์พลังงานทางเลือก REEV นั้น หากไม่นับเรื่องพลังงานที่ใช้แล้ว ถือได้ว่าอุปกรณ์พื้นฐานทั้งภายในและภายนอก รวมถึงระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ถือว่าเหมือนกันเกือบทั้งหมด เช่น อุปกรณ์ภายนอกในรุ่น BRV Max แล REEV Max ก็จะมีเหมือนกัน จะต่างกันแค่พลังงานในการขับขี่เท่านั้น เพราะฉะนั้น หากผู้ใช้รถที่ต้องการใช้รถไฟฟ้าแบบ 100% ก็ต้องเลือกกลุ่ม BRV แต่หากต้องการมีความยืดหยุ่นด้านพลังงาน ก็สามารถเลือกใช้รุ่น REEV ที่มีทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์เบนซินทำงานร่วมกันได้นั่นเอง

ปิดฉากงาน Motor Show 2025 กับยอดจองรถใหม่กว่า 77,379 คัน

หลังจากที่งาน Bangkok International Motor Show 2025 ครั้งที่ 46 หรือ งานมอเตอร์โชว์ 2568 ได้ปิดฉากกันไปแล้วเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา สิ่งที่หลายคนตั้งตารอคอยกันมากที่สุด คือ การสรุปยอดจองรถใหม่ในงาน Motor Show 2025 ที่เรียกว่าปีนี้นอกจากจะคึกคักมากเป็นพิเศษแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งปีที่รถยนต์ EV มาแรง ซึ่งปีนี้ยอดจองรถใหม่ปิดยอดไปได้ทั้งหมด 77,379 คัน เพิ่มขึ้น +44.8% เพิ่มขึ้นจากปีกก่อนที่มียอดจองทั้งหมด 53,438 คัน

สรุป ยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Show 2025

สรุปยอดจองรถในงาน Motor Show 2025 ทั้งหมด

สำหรับยอดจองรถงาน Motor Show 2025 ปีนี้ ค่ายที่มาแรงที่สุดคือ BYD ที่ล้มแชมป์อย่างพี่ใหญ่ Toyota ลงไปได้ ซึ่งส่วนหนึ่งก็อาจเป็นเพราะการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ พร้อมกับนวัตกรรมที่น่าสนใจมากมาย ส่วนค่ายอื่น ๆ ที่มาแรงและสร้างสถิติในงานนี้ ก็มีทั้ง GAC, Deepal ส่วนทาง Honda ร่วงลงมาเป็นอันดับ 5 จากเดิมที่อยู่อันดับ 4 ในงาน Motor Show 2024 และงาน Motor Expo 2024 ที่ผ่านมา

รวมยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Show 2025

ยอดจองรถงานมอเตอร์โชว์ 2568 ทุกค่าย

  1. BYD / DENZA 10,353 คัน (BYD 9,819 / DENZA 534)
  2. Toyota 9,819 คัน
  3. GAC (AION / HYPTEC) 7,018 คัน
  4. DEEPAL / AVATR / ChangAn 6,589 คัน (ChangAn-Deepal 6,067 / AVATR 522)
  5. Honda 5,948 คัน
  6. MG 5,910 คัน
  7. GWM 4,959 คัน
  8. Mitsubishi 4,398 คัน
  9. Nissan 3,139 คัน
  10. Isuzu 2,989 คัน
  11. OMODA & JAECOO 2,568 คัน
  12. Mazda 2,353 คัน
  13. XPENG 1,399 คัน
  14. NETA 1,219 คัน
  15. ZEEKR 1,196 คัน
  16. Suzuki 1,023 คัน
  17. GEELY 1,018 คัน
  18. FORD 1,001 คัน
  19. Mercedes-Benz 870 คัน
  20. RIDDARA 671 คัน
  21. BMW 630 คัน
  22. Hyundai 582 คัน
  23. KIA 507 คัน
  24. Volvo 366 คัน
  25. MINI 202 คัน
  26. AUDI 128 คัน
  27. Juneyao 128 คัน
  28. Lexus 84 คัน
  29. Porsche 75 คัน
  30. Peugeot 28 คัน
  31. Jeep 16 คัน
  32. Maserati 12 คัน
  33. Aston Martin 4 คัน
  34. Rolls-Royce 4 คัน
  35. Others อื่นๆ 77 คัน

รวมยอดจองรถของค่าย BYD ในงาน Motor Show 2025

สำหรับค่ายรถยนต์สัญชาติจีนอย่าง BYD ก็เรียกว่ามาแรงและเกินความคาดหมายพอสมควร เพราะในงาน Motor Show 2568 ปีนี้ สามารถทำยอดจองรถใหม่ไปได้ทั้งหมด 10,353 คัน โดยรุ่นที่มาแรงคือ BYD Dolphin ส่วนรุ่นอื่น ๆ ก็สร้างสถิติได้สูงไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น

  1. BYD Dolphin รวม 4,014 คัน (38.8%)
  2. BYD Sealion 7 รวม 2,038 (19.7%)
  3. BYD Atto 3 รวม 2,019 คัน (19.5%)
  4. BYD Sealion 6 รวม 1,015 คัน (9.8%)
  5. DENZA D9 รวม 534 คัน (5.2%)
  6. BYD M6 รวม 323 คัน (3.1%)
  7. BYD Seal รวม 257 คัน (2.5%)
  8. BYD SHARK6 รวม 153 คัน (1.5%)
รถยนต์ BYD LAB x YANGWANG U8

สรุป

สำหรับภาพรวมของงาน Motor Show 2025 ในปีนี้ ก็นับว่าคึกคักและมีไฮไลท์ที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะเหล่าบรรดาค่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ที่นอกจากจะมีการนำรถใหม่มาเปิดตัวแล้ว ยังมีการโชว์นวัตกรรมที่น่าสนใจมากมาย หนึ่งในนั้นคือ รถยนต์ BYD LAB x YANGWANG U8 ที่สามารถขับลอยน้ำได้ถึง 30 นาที ที่จัดแสดงโชว์ในงานมอเตอร์โชว์เป็นครั้งแรก ชนิดที่ว่าสร้างเสียงฮือฮาให้กับผู้ร่วมงานได้เป็นอย่างดี

ส่วนรถยนต์ EV รุ่นใหม่ ๆ ที่เปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์เป็นครั้งแรก พร้อมทำตลาดในเมืองไทย ก็มีหลายรุ่นที่น่าติดตามกัน ไม่ว่าจะเป็น AION UT, ZEEKR 7X, MG IM6, Neta X และ DEEPAL S05 ส่วนค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นหลายค่ายก็มีการเปิดตัวรถยนต์พลังงานทางเลือกเช่นกัน อาทิ Nissan Serena e-Power, Toyota Yaris Ativ HEV และ Mitsubishi Xforce HEV ที่ก็ถือว่าเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นในตลาดรถเมืองไทย โดยเฉพาะการมีรถยนต์พลังงานทางเลือกในท้องตลาด ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคหลาย ๆ กลุ่ม

และที่น่าสนใจอีกหนึ่งประเด็นคือ ถึงแม้ว่าในปีนี้จะมีเศรษฐกิจและปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่าอาจส่งผลต่อตลาดรถและจำนวนยอดจองภายในงาน แต่กลายเป็นว่ายอดจองในปีนี้กลับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ “สงครามราคา” ที่นอกจากจะมีโปรโมชั่นดีดีให้เลือกสรรกันมากขึ้นแล้ว ราคารถหลายแบรนด์ก็สามารถเอื้อมถึงได้มากขึ้น ซึ่งก็อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Show 2025 สูงถึง 77,379 คัน